คำโปรย

  เมื่อวายุ(มุกแป้ก) ถูกแฟนคลับจับคู่ "สร้างเรือจิ้น" กับ "คู่กัด" อย่างนที(ปากเดือด)
เขาที่ไม่เคยยอมแพ้ใครจึงสวมบทบาทเป็นกัปตันนักล่มเรือ
ถึงจะล่มไม่ได้ง่ายๆ เขาก็จะพลิกเรือนี้ลงให้ได้! 

เดือน.ครึ่ง.เสี้ยว

ผู้แต่ง : ล.โลกลัลล้า
หมวด : ฟรีสไตล์/นิยายวาย
จำนวน : 32 ตอน (จบแล้ว)

1

"เมื่อเดือนสองดวง ไม่อาจอยู่ร่วมฟ้าเดียวกัน ก็จะต้องแบ่งคู่เป็นเดือนครึ่งเสี้ยว" คำโปรยเรื่องเดือนครึ่งเสี้ยวชวนให้พี่แนนนี่เพนคิดถึงสำนวนไทยที่ว่า "เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้" เลยค่ะ เพราะคู่นทีกับวายุเป็นคู่ของไอดอล ต่างกับพี่อินและน้องวินที่เป็นเรื่องของไอดอลกับคนธรรมดา โดยเดือนครึ่งเสี้ยวเป็นเรื่องของไอดอลสองคนที่อยู่ในจุดสูงสุดเหมือนกัน ในช่วงเวลาเดียวกัน เรื่องราวจึงเป็นไปตามสำนวนที่กล่าวมา เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการเป็นที่หนึ่งเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น.. ซึ่งหากใครคาดหวังความฟินจากเดือนครึ่งเสี้ยว พี่แนนนี่เพนบอกเลยว่ามีแน่นอนแต่น้อยกว่าความฮามากๆ เพราะโทนเรื่องต่างกับเดือนล่องหนแบบสุดๆ แต่รับรองว่าอ่านแล้วสนุก ลัลล้า อารมณ์ดีเหมือนนามปากกา ล.โลกลัลล้า แน่นอน! 

2

เอิร์ธ ล.โลกลัลล้า เคยบอกว่าเดือนครึ่งเสี้ยวมีเพียงความสนุก และความฟินจากการจิ้นไอดอล แต่เมื่อพี่แนนนี่เพนได้อ่านจนจบ กลับเห็นว่าเอิร์ธซ่อนเรื่องราวระหว่างบรรทัดเอาไว้เยอะมาก เดือนครึ่งเสี้ยวไม่ได้เป็นแค่เรื่องของการจิ้นไอดอลกับไอดอลที่เราชอบเท่านั้น ชีวิตไอดอลจริงๆ มันมีทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นจริง เราจินตนาการขึ้นมา และเราอาจถูกภาพลวงตาหลอกให้เชื่อก็ได้ ซึ่งเดือนครึ่งเสี้ยวทำให้เรานึกถึงความรู้สึกของไอดอลมากขึ้น และทำให้เรารู้สึกประทับใจกับมุมมองการเป็นแฟนคลับที่เอิร์ธพยายามสื่อให้เห็นว่า "ไอดอลกับแฟนคลับถือเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เต็มไปด้วยความสุข"

3

"เดือนครึ่งเสี้ยว" เป็นหนึ่งในโปรเจ็ค UNISTAR ต่อจากเรื่องเดือนล่องหน ไม่ใช่ภาคต่อและไม่ได้มีเนื้อหาต่อเนื่องกัน แต่มีช่วงที่ไทม์ไลน์ชนกันอยู่บ้าง โดยโปรเจ็ค UNISTAR เป็นโปรเจ็คเดือนมหา'ลัยระดับประเทศ คัดเลือกสมาชิกจากการประกวดเดือนจากทุกมหา'ลัยทั่วประเทศในแต่ละปี และมีรูปแบบการโปรโมตกึ่งไอดอล ใครที่ชอบดูรายการไอดอลจะจินตนาการเห็นภาพได้เป็นฉากๆ และเข้าใจการทำงานของไอดอลมากขึ้นแน่นอน 

4

เดือนครึ่งเสี้ยวเป็นเรื่องของ "คู่ไอดอลกับไอดอล" ที่ถูกแฟนคลับจับจิ้นเพียงเพราะมีโมเมนต์ด้วยกัน โมเมนต์ที่พูดถึงก็คือการพูดคุยกัน กระซิบใกล้ๆ กัน หรือแม้แต่การบังเอิญถูกเนื้อต้องตัวกัน สิ่งเหล่านี้คือความฟินที่แฟนคลับชื่นชอบกันมาก แต่ในมุมของคนเป็นไอดอล พวกเขากลับไม่เข้าใจว่าโมเมนต์ไหนที่ชวนให้แฟนคลับจินตนาการกันไปไกล การเล่าเรื่องของเอิร์ธทำให้เห็นว่า ธรรมชาติการแสดงออกของไอดอลแบบไม่เซอร์วิสแฟนคลับมากเกินไป ทำให้แฟนคลับรู้สึกมีความสุขที่ได้จินตนาการ และแอบคิดไปว่าสักวันหนึ่งจาก "คู่จิ้นอาจจะกลายป็นคู่จริง" ในสักวัน 

5

หลังจากอ่านไปได้ประมาณ 5-6 ตอน สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในความทรงจำของพี่แนนนี่เพนก็คือคาแรคเตอร์ของตัวละคร เพราะแค่เราอ่านเพียงบทสนทนา เราจะรู้ได้เลยว่าใครเป็นคนพูดประโยคนี้ขึ้นมา  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตัวละครมีชีวิต และเป็นตัวของตัวเองมาก โดย "นที" กับ "วายุ" เป็นตัวละครที่มีจุดเด่นที่ "ปาก" เหมือนกัน คนหนึ่ง "ปากหมา" พูดไม่ตรงกับใจ ส่วนอีกคนชอบเล่น "มุกแป้ก" คิดว่ามุกตัวเองตลก ทั้งที่ไม่มีใครเข้าใจ จากคาแรคเตอร์ของทั้งคู่ ทำให้คนที่ลักษณะเหมือนกันกลายเป็นคู่กัดจอมป่วนทั้งในชีวิตจริงและในโซเชียล เพียงเพราะต้องการอยู่เหนือกว่าอีกฝ่าย พอถูกแฟนคลับจับจิ้นเลยไม่มีใครยอมใครแม้แต่ก้าวเดียว 

6

แม้จะเรียกตัวละครว่าเป็นคู่ไอดอลกับไอดอล แต่จริงๆ แล้วทั้งคู่ก็เป็นเพียงคนธรรมดาในอีกโลกหนึ่งเท่านั้น โลกใบแรกเป็น "โลกที่ต้องสร้างภาพให้เหมาะสมกับการเป็นไอดอล" ซึ่งมีฉากหนึ่งที่นทีและวายุถูกหลอกให้ไปออกรายการและเกิดเซอร์ไพรส์ว่าทั้งคู่กำลังจะมีซีรีส์ร่วมกัน ทั้งคู่ต่างต้องรักษาภาพลักษณ์และพูดปลอบโยนความรู้สึกแฟนคลับ ตัวอย่างเช่นพิธีกรถามแฟนคลับว่า “ดีใจมั้ยครับ ในที่สุดความรักของพวกคุณก็เป็นจริงแล้ว” ซึ่งใจจริงของวายุอยากจะตอบไปว่า "ดีใจกับผีน่ะสิ แต่เขาไม่สามารถทำได้เพราะว่าต้องรักษาภาพลักษณ์" นี่จึงเป็นโลกใบแรกที่เอิร์ธสะท้อนให้เราเห็นผ่านมุมมองของวายุ 

7

ส่วนโลกใบที่สองเป็นโลกของความเป็นจริง โลกที่ต้องอยู่กับความจริง เป็นเพียงคนธรรมดากับครอบครัว และเพื่อนฝูง นทีกับวายุมีจุดเด่นอีกอย่างที่เหมือนกันคือ "หลงตัวเอง" ขั้นหนัก ชอบคิดเข้าข้างตัวเองตลอดเวลา ต้องอยู่เหนือกว่าอีกฝ่ายให้ได้ ซึ่งเอิร์ธเคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า "นทีกับวายุเป็นคนขาดความมั่นใจ" นทีดูเป็นคนที่มั่นใจมาก คิดว่าตัวเองหล่อมาก แต่พอจะจีบใครสักคนดันไม่มั่นใจ ขณะที่วายุเป็นคนชอบเล่นมุก คิดว่ามุกตัวเองตลกมาก แต่เมื่อไร้เครื่องสำอางก็จะหมดความมั่นใจเช่นกัน จากนิสัยหลงตัวเองของทั้งคู่ ทำให้เราเห็นว่าจริงๆ แล้วการที่คนธรรมดาจะก้าวเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบได้นั้น นอกจากต้องเป็นตัวเองน้อยลงแล้ว ยังต้องแบกรับความรู้สึกจำนวนมาก และสร้างตัวตนที่มีความมั่นใจขึ้นมาอีกด้วย เหล่าไอดอลนี่พยายามกันหนักจริงๆ 

8

แล้วเขาทั้งคู่รักกันยังไง? ถ้าพี่แนนนี่เพนบอกไปก็จะเหมือนสปอยล์ ก็จะขอบอกเรื่องลับๆ เรื่องหนึ่งของนทีให้นักอ่านได้รู้แล้วกันค่ะ เดือนครึ่งเสี้ยวจะเล่าเรื่องผ่านวายุมุกแป้กที่ต้องการเอาชนะนทีตลอดเวลา ทำให้ "เรารู้จักนทีผ่านมุมมองของวายุเป็นส่วนใหญ่" แต่ก็มีฉากหนึ่งที่ "นทีเปิดเผยตัวตนออกมาอย่างหมดเปลือก" อ่านแล้วตกใจเหมือนกัน เพราะถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่เข้าใจแน่นอน เพราะนทีชอบบ่นว่าไม่ชอบกาแฟดำร้านหน้ามหาวิทยาลัยเพราะมันขมมาก แต่ก็ไปซื้อกินทุกวัน ชอบบ่นว่าไม่ชอบเพลงร็อคเพราะมีแต่เสียงคนแหกปากตะโกนร้องอย่างเดียว แต่ก็ยังฟังเพลงร็อคทุกวัน นทีไม่เคยบอกว่าชอบอะไรเลยสักอย่าง แต่ก็ชอบเอามาบ่นย้ำๆ เอามาด่าซ้ำๆ เอ๊ะ! แล้วที่ด่าวายุทุกวัน หมายความว่ายังไง ใครชอบใครก่อนกันนะ สงสัยจัง?

9

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือชื่อตอนของนิยายเรื่องนี้ บอกเลยว่าพี่ยอมซูฮกให้กับการคิดชื่อตอนของเอิร์ธเลยค่ะ อยากถามมากว่าแต่ละมุกคิดขึ้นมาได้ยังไง มันแป้กมากๆ และก็คิดไม่ถึงเช่นกัน กลายเป็นว่านอกจากจะเฝ้ารอว่าเนื้อเรื่องจะดำเนินต่อไปอย่างไรแล้ว ต้องมาลุ้นอีกว่าตอนต่อไปจะเป็นมุกอะไร บางทีผวนไปผวนมาก็ไม่ตรงกับที่เขาผวน มุกวายุมันล้ำเกินไปจริงๆ ตัวอย่างชื่อตอนก็เช่น วายุเนื้อล่มรัก, วายุมีมุกเป็นเอกกะรัก หรือบางทีก็ใช้ภาษาที่ต้องรอตีความในเรื่อง เช่น คู่เสี่ยวอะไรฟ์, วายุแกะ (Sheep) หายแล้ว, ป้อมป้อมหรือจิงโจ้.. เป็นไงคะ ชื่อตอนแต่ละตอนมันน่าปวดหัวจริงๆ เนอะ

10

เดือนครึ่งเสี้ยวเหมาะสำหรับคนเป็นติ่ง! ใครที่ชอบเรื่องราวของไอดอล ความรัก และแฟนคลับ นิยายของเอิร์ธ ล.โลกลัลล้า ตอบโจทย์นักอ่านที่ชอบเรื่องจิ้นๆ ฟินๆ ได้แน่นอนค่ะ พี่แนนนี่เพนคาดหวังว่าคู่นทีกับวายุจะมีโมเมนต์ฟินๆ จิกหมอนให้ขาดกระจุยกระจายเหมือนพี่อินกับน้องวินบ้าง แต่ผิดคาดมาก จะถามหาความละมุนละไมจากเรื่องนี้เหรอ? อยู่ตรงไหนล่ะเนี่ย มุกแป้กมากจนต้องแอบขำให้เลยกับความครีเอทนี้ของเอิร์ธ ใครที่คาดหวังว่าจะอบอุ่นเหมือนเดือนล่องหน บอกเลยว่าไม่มี! มีแต่มุกแป้กๆ กับ "เรื่องราวสุดฮาที่หาอ่านจากที่ไหนไม่ได้แน่นอน" เพราะนี่คือ "วายุมุกแป้กกับนทีปากเดือด" ที่แฟนๆ ติดแฮชแท็กให้ว่าเป็น #เดือนคู่เสี่ยว ส่วนจะเสี่ยวมากขนาดไหนก็ต้องไปตามอ่านกันดู! 


พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

1 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นนี้ถูกลบเนื่องจาก

ถูกลบโดยทีมงาน เนื่องจากงดตั้งกระทู้วิจัย โครงงาน หรือใช้พื้นที่เว็บบอร์ดเพื่อการส่งการบ้าน เนื่องจากเป็นการรบกวนผู้ใช้บอร์ดท่านอื่นๆ ขออภัยในความไม่สะดวก

กำลังโหลด
กำลังโหลด