10 เรื่องจริงสุดพีคเกี่ยวกับแม่มด
ที่จะทำให้คุณเชื่อว่าพวกเขามีอยู่จริง!
สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน เมื่อพูดถึง “แม่มด” ภาพหญิงชรานั่งอยู่บนไม้กวาด หรือเด็กๆ ในชุดคลุมสีแดงสดใสกำลังเล่นควิดดิชอย่างสนุกสนานคงเด้งขึ้นมาทันทีล่ะสิ แหงแหละ มันคือภาพติดตาของพวกเราที่เกิดขึ้นจากการอ่านหนังสือหรือดูภาพยนตร์ต่างๆ
หากน้องๆ เป็นหนึ่งคนที่คิดว่าแม่มดมีอยู่แค่ในโลกจินตนาการเท่านั้น บอกเลยว่าคิดผิดมหันต์แล้วจ้ะ เพราะแม่มดมีอยู่จริงๆ ในประวัติศาสตร์โลก! แล้วพวกเขาก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดด้วย รู้แล้วจะอึ้ง ในบางกลุ่มอย่างเช่นชนเผ่าแอฟริกัน แม่มดเปรียบเสมือนหมอรักษาโรค เป็นสัญลักษณ์ของพลังอันยิ่งใหญ่ที่สามารถรักษาคนให้หายได้
เห็นแบบนี้แล้วแม่มดไม่ได้เป็นแค่ตำนานปรำปรานะจ๊ะ แต่พวกเขามีตัวตน มีอารยธรรม และมีหลักฐานชัดเจนว่าปรากฎอยู่บนโลก หากไม่เชื่อ วันนี้พี่น้ำผึ้งขอท้าด้วย 10 เรื่องจริงเกี่ยวกับแม่มดที่พี่ได้รวบรวมมาฝากในวันนี้ค่ะ บอกเลยว่ารู้แล้วจะร้อง 'โอ้โห' และเชื่อสนิทใจเลยแหละว่า “แม่มดมีอยู่จริง” เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เรามาดูกันเลยดีกว่าจ้า
แม่มดในยุคกลาง
แรกเริ่ม ในช่วงยุคกลาง ชาวคริสเตียนดั้งเดิมคิดว่าเรื่องคาถาไม่เป็นอันตรายและไม่น่ากลัวเพราะมันไม่มีอยู่จริง แต่ชาวคริสเตียนส่วนหนึ่งคิดว่าเรื่องนี้มีอยู่จริงและเป็นสิ่งน่ากลัว นักศาสนศาสตร์จึงใช้เวลาหลายปีในการสืบหาข้อมูลและถกเถียงเรื่องแม่มด มีแม้กระทั่งจดหมายที่เขียนโดยพระสันตะปาปาเพื่อโต้แย้งความเชื่อดั้งเดิมของชาวคริสเตียนว่าแท้จริงแล้วแม่มดคือบาปและเป็นสิ่งชั่วร้าย
จนกระทั่งในปี 1484 พระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 8 ได้สั่งให้คนออก “ล่าแม่มด” ถึงอย่างนั้น มันไม่ใช่แค่ล่าแม่มดเฉยๆ แต่ยังรวมไปถึงการต่อต้านชาวยิว มุสลิม คนเป็นโรคเรื้อน หรือกลุ่มที่คริสตจักรไม่ชอบ ดังนั้นจะกล่าวว่าผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการล่าแม่มดนี้ไม่ได้มีแค่แม่มดเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มคนอื่นๆ ด้วยก็คงไม่ผิดเท่าไหร่นัก อย่างไรก็ตาม ในปี 1736 การล่าแม่มดถูกห้ามอย่างเป็นทางการในอังกฤษ
จับแม่มดมาเผาทั้งเป็น
การเผาแม่มดที่เสาถือเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างเสาและกองไฟสำหรับการเผาไหม้ ขณะที่เชือกเป็นสิ่งที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เราสามารถแขวนแม่มดได้หลายสิบครั้งในหนึ่งวัน นับว่าการลงโทษแม่มดด้วยการแขวนนั้นคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากกว่า
ในช่วงระยะเวลา 10 เดือน มีผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดถึง 165 คน มี 31 คนถูกจองจำ แต่มีเพียง 19 คนเท่านั้นที่ถูกสังหาร (18 คนคือผู้หญิงและมี 1 คนที่เป็นผู้ชาย) ไม่มีใครถูกเผาที่เสา ผู้หญิงถูกแขวนคอ ส่วนผู้ชายไม่ยอมรับว่าตัวเองเป็นพ่อมด จึงถูกบดขยี้ด้วยหินจนตาย ในช่วงเวลาที่เจ้าหน้าที่พยายามล้วงคำสารภาพ คำพูดสุดท้ายของเขาคือ “ขอหินที่หนักกว่านี้”
จุดเริ่มต้นของแม่มดยุคใหม่
หลังจากยุคล่าแม่มด ความเชื่อเรื่องเวทมนต์คาถาก็ค่อยๆ หายไป จนกระทั่งกลับมาบูมอีกครั้งที่สหหรัฐอเมริกาในช่วงยุคแรกของปี 90 รู้จักกันในนาม “วิกก้า” สร้างขึ้นโดยเจอรัลด์ การ์ดเนอร์ โดยอิงจากความเชื่อดั้งเดิม คำว่า “wicce” มีต้นกำเนิดจากแองโกล - แซ็กซอนและหมายถึง “การโค้งงอ” ก่อนต่อมาจะถูกพัฒนาเป็นภาษาอังกฤษโบราณที่หมายความว่า “sorceror” แปลว่าพ่อมด ซึ่งเป็นรากศัพท์ของ “witch” และ “wicked”
จะว่าไปแล้วหากมองอีกมุมหนึ่ง คนเชื่อว่าวิกก้าเป็นเหมือนการแยกตัวออกมาของผู้นับถือดรูอิด ศาสนาเซลติกที่มีมานานกว่าหนึ่งพันปี แต่ดรูอิดนั้นสืบทอดทางปากและไม่มีหลักฐานเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจน
การปรุงยาไม่ได้ดาร์กอย่างที่คิด
เช่นเดียวกับในแฮร์รี่ พอตเตอร์ แม่มดเองก็มีการปรุงยา เพียงแต่ส่วนผสมอาจไม่ได้ฟังดูอลังการแบบในหนังสือ แล้วก็ไม่ได้จับสัตว์มาเป็นส่วนผสมด้วย! ชื่อแบบ “อุ้งเท้าแมว” หรือ “ผมของหญิงสาว” มักเป็นชื่อของคาถา ยา หรือโค้ดลับที่แทนพืช ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่คนในฟาร์มจะปกปิดชื่อสมุนไพรและพืชชนิดอื่นๆ เพื่อไม่ให้คนอื่นรู้สูตรลับและยาของตัวเอง เห็นชื่อแปลกๆ แบบนี้แล้ว ส่วนใหญ่หมายถึงชื่อสมุนไพรเลย เช่น ลิ้นของงู (เฟิร์น) เท้าของนก (ฟีนูกรีก หรือลูกซัด) และหูของหนู (วัชพืชฮอว์ค) ดังนั้นไม่ต้องตกใจ พวกแม่มดไม่ได้ไปตัดลิ้นงูมาทำเป็นยาจ้ะ
แม่มดไม่ได้บินบนไม้กวาด แต่พิธีกรรมบางอย่างทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนบินได้
หนึ่งในภาพแม่มดที่เป็นที่รู้จักกันดีที่สุดในยุคปัจจุบัน คือ แม่มดบนไม้กวาดบินผ่านท้องฟ้า เห็นได้ชัดว่าพวกเธอไม่ได้บินผ่านแบบนี้ตลอดทั้งคืนนะ อย่างไรก็ตาม พิธีกรรมบางอย่างอาจทำให้พวกเขาเชื่อว่าตัวเองกำลังบินได้จริงๆ! หนึ่งในส่วนผสมยาดั้งเดิมของพวกเขาคือ “แมนแดรก” ซึ่งเป็นรากที่รู้จักกันดีว่ามีคุณสมบัติทำให้หลอนประสาท ในช่วงต้นพิธีกรรม แม่มดจะนำแมนแดรกมาถูทั่วร่างกายที่เปลือยเปล่า นี่จะทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่ากำลังล่องลอยอยู่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่พวกเขาอาจเชื่อว่าตัวเองกำลังบินได้อยู่จริงๆ
จริงๆ แล้วแม่มดไม่ได้เกี่ยวข้องกับซาตานเลย
ความเชื่อที่ว่าแม่มดบูชาซาตานเป็นความเชื่อที่ผิด พวกแม่มดแค่ไม่เชื่อในสิ่งที่พวกคริสเตียนเชื่อ และไม่มีส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับซาตานเลยแม้แต่น้อย ศาสนจักรของซาตานได้อธิบายความเชื่อของพวกเขาในเว็บไซต์ว่า “ซาตานเป็นพวกที่ไม่เชื่อในพระเจ้า เรามองว่าจักรวาลนั้นไม่แยแสพวกเรา ศีลธรรมและค่านิยมทั้งหมดเป็นแค่สิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น” ในขณะเดียวกัน แม่มดไม่ได้มีความเชื่อเช่นเดียวกับซาตาน แม่มดโฟกัสที่ความสงบสุข ความเชื่อหลักของพวกเขาคือการอยู่อย่างสันติ และไม่ทำอันตรายคนรอบข้าง นอกจากนี้พวกเขายังให้ความสำคัญกับธรรมชาติและความสามัคคีในโลก บอกแล้วว่าไม่มีส่วนไหนที่เกี่ยวข้องกับซาตานเลยจ้า แค่ความเชื่อก็ต่างกันโดยสิ้นเชิงแล้ว
ฮาโลวีนไม่ได้เป็นวันเฉลิมฉลองของแม่มดเพียงอย่างเดียว
คนส่วนใหญ่เชื่อว่าพ่อมดแม่มดจะออกมาเฉลิมฉลองกันในวันฮาโลวีนเท่านั้น แต่ความจริงแล้วยังมีวันที่พวกเขาเฉลิมฉลองอีก เรียกว่า “วงจักรแห่งปี (Wheel of the Year)” มักเกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนฤดูกาลและฤดูการเก็บเกี่ยว นอกจากนี้ยังมีการเฉลิมฉลองอื่นๆ ด้วย เช่นวันยูลช่วงฤดูหนาว วันออสตาราช่วงฤดูใบไม้ผลิ และวันมาบอนช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งส่วนใหญ่เทศกาลของแม่มดมักอยู่ในช่วงฤดูกาล โดยเฉพาะการเก็บเกี่ยวในฤดูใบใบไม้ร่วง และการปลูกพืชในฤดูใบไม้ผลิ ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนกับเกษตรกรเลยเนอะ
เมืองมายอง ประเทศอินเดีย คือดินแดนแห่งมนต์ดำ
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ หมู่บ้านเล็กๆ ในเมืองมายอง รัฐอัสสัม ประเทศอินเดียถูกขนานนามว่าเป็น “ดินแดนแห่งมนต์ดำ” เชื่อกันว่าชาวมายองฝึกฝนมนต์ดำ พวกเขามีพลังประหลาดในการรักษาคนอื่น ยิ่งไปกว่านั้นผู้คนยังเชื่ออีกว่าชาวมายองสามารถเปลี่ยนคนให้กลายเป็นสัตว์ และเสกให้คนหายไปในอากาศได้
ยังไม่รวมถึงตำนานที่เล่าว่า ในช่วงสงคราม มูฮัมหมัด ชาห์และกองทัพของเขาเดินเข้าไปในหมู่บ้านก่อนที่จะหายตัวไปอย่างลึกลับ เล่นเอางงมากว่าหายไปไหน แล้วจำนวนที่หายก็ไม่ใช่ธรรมดานะ แต่สูงถึง 100,000 คนเลยแหละ! หากคิดว่าปี 2019 ความเชื่อมนต์ดำพวกนี้คงหายไป บอกเลยว่าคิดผิด เพราะชาวมายองยังคงฝึกฝนมนต์ดำจนถึงทุกวันนี้จ้า
มีหนังสือคู่มือล่าแม่มดอยู่จริงในโลก
“มาเลอัส มาเลฟิคารัม (Malleus Maleficarum)” คือคู่มือล่าแม่มดที่เผยแพร่ในปี 1487 ภายในนั้นระบุถึงวิธีการที่ถูกต้องในการไต่สวนแม่มด รวมไปถึงการลงโทษพวกเขาที่มีตั้งแต่การตอกเล็บ บีบอัดขา ไปจนถึงการห้อยหัว แถมยังครอบคลุมถึงทริคสุดพีคที่ฟังแล้วถึงกับร้อง ‘ฮะ?’ อย่างเช่นการโกนขนและผมของแม่มดออกให้หมด พวกเธอจะได้ไม่สามารถซ่อนพลังได้ คิดดูเอาเถอะว่าโหดร้ายเบอร์ไหน
ที่จริงแล้วหนังสือเล่มนี้ไม่ได้ถูกอนุมัติอย่างเป็นทางการจากพระสันตะปาปาอินโนเซนต์ที่ 8 แต่ตอนต้นที่ปรากฎในหนังสือทำให้คนเข้าใจผิดกันเป็นอย่างมาก ถึงอย่างนั้นในยุคล่าแม่มด คู่มือนี้กลับฮอตฮิตและเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนบริสุทธิ์นับล้านถูกฆ่าตายอย่างโหดร้าย แถมมันยังเป็นหนังสืออันตรายที่ไม่เคยมีใครแบนด้วย
โจนออฟอาร์กถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
หากใครที่ชื่นชอบประวัติศาสตร์ฝั่งตะวันตก พี่น้ำผึ้งเชื่อว่าต้องรู้จักเรื่องของ “โจนออฟอาร์ก (Joan of Arc)” แน่นอน หญิงสาวคนนี้คือลูกชาวนาที่กลายเป็นผู้นำกองทัพฝรั่งเศสในสงครามร้อยปี ก่อนจะสู้รบจนชนะกองทัพอังกฤษอันยิ่งใหญ่ เธออ้างว่าพระเจ้าเป็นผู้ชี้ทางสว่างและทำให้เธอคว้าชัยชนะ แน่นอนว่านี่เป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ของชาวฝรั่งเศสเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม รางวัลของโจนกลับไม่ใช่ตำแหน่งอันทรงศักดิ์หรือชีวิตหรูอยู่สบาย แต่กลับเป็นความตายที่มาพร้อมกับความทรมาน เพราะตอนอายุ 19 ปี โจนถูกกล่าวหาว่าเป็นปรปักษ์กับคริสจักรเนื่องจากเธอเป็นแม่มด สามารถสื่อกับพลังเหนือธรรมชาติได้ ก่อนสุดท้ายโจนจะถูกฆ่าตายด้วยวิธีเผาทั้งเป็น จนกระทั่ง 20 ปีต่อมา พระสันตะปาปาคาลิกซ์ตุสที่ 3 ทรงมีคำสั่งให้พิจารณคดีนี้ใหม่อีกครั้ง ศาลจึงสรุปว่าโจนเป็นผู้บริสุธิ์ และได้แต่งตั้งให้เธอเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ฝรั่งเศสในปี 1920
น้องๆ คะ เรื่องราวของแม่มดไม่ได้หยุดอยู่แค่ 10 เรื่องนี้ที่พี่นำมาฝากเท่านั้น แต่จากพี่เคยอ่านหนังสือมาพบว่า แม่มดมีภาษา สัญลักษณ์และพิธีกรรมเป็นของตัวเองด้วย ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว ศาสตร์ของแม่มดมักเกี่ยวข้องกับธรรมชาติและไม่มีการฆ่าคนเพื่อบูชายันต์เหมือนอย่างที่เราเห็นในหนัง ดังนั้นพออ่านจบครบ 10 ข้อ พี่จึงอดตกใจไม่น้อยที่คนเราไล่ล่าฆ่าเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเพียงเพราะพวกเขาเป็น "แม่มด" และมีความเชื่อที่แตกต่างกัน ทั้งที่ความจริงแล้วพวกเขาก็ไม่ได้เป็นอันตรายต่อโลกเลย เป็นสิ่งที่พี่รู้สึกสลดใจมากๆ แล้วน้องๆ ล่ะคะ คิดเห็นยังไงกับเรื่องนี้ ลองเล่าให้พี่ฟังด้วยนะ รออ่านความเห็นของทุกคนอยู่จ้ะ ^ ^
พี่น้ำผึ้ง :)
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://en.wikipedia.org/wiki/Malleus_Maleficarum
http://www.tryskelion.com/herbs_old_world_names_for_herbs.html
https://www.churchofsatan.com/faq-fundamental-beliefs
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%8C%E0%B8%B2%E0%B8%
99_%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%81
https://www.scoopwhoop.com/inothernews/facts-about-witchcraft/#.bvuqht9gb
https://awarenessact.com/12s-terrifying-facts-about-witches-and-witchcraft-that-will-make-you-believe-they-exist/
https://thoughtcatalog.com/james-b-barnes/2014/10/10-terrifying-facts-about-witches-that-will-make-you-believe-they-actually-exist/
3 ความคิดเห็น
สงสารโจนนะตายแบบฟรีๆ -.- เฮ้อ...
สงสารคนที่ตายไป แบบ วิธีทรมาณเป็นงงมาก ยอมรับก็ตาย ไม่ยอมรับก็ตายป่ะ
ข้าน้อยไม่เคยเชื่อว่าแม่มดเลวอยู่แล้วขอรับ
มองเป็นผู้วิเศษซะมากกว่า.....