7 บทกลอนสอนใจ จากเรื่องพระอภัยมณี ที่ไม่เคยลืมเลือน!

7 บทกลอนสอนใจ
จากเรื่อง พระอภัยมณี ที่ไม่เคยลืมเลือน!

 

ถ้าพูดชื่อ “สุนทรภู่” เชื่อว่าทุกคนต้องรู้จักแน่ๆ บางคนแค่ได้ยินชื่อบทกลอนของสุนทรภู่ก็ลอยเข้ามาในหัวแล้ว แน่ล่ะว่าทุกคนย่อมรู้จักเพราะสุนทรภู่นั้นได้รับการยกย่องให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกในด้านงานวรรณกรรม หรือฉายาว่า “กวีเอกของโลก” ผลงานการประพันธ์หลายชิ้นของสุนทรภู่ได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งในหลักสูตรการเรียนการสอนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน แถมวันที่ 26 มิถุนายน ของทุกปียังเป็นวันสุนทรภู่อีกด้วย พูดมาถึงตอนนี้ พี่น้ำเชื่อว่าทุกคนต้องเคยผ่านประสบการณ์งานวันสุนทรภู่ ที่โรงเรียนจัดให้นักเรียนได้ร่วมแต่งกลอน เขียนเรียงความประกวดบ้างแหละ

วันนี้พี่ก็เลยอยากจะพาน้องๆ มารำลึกถึงสุนทรภู่กันหน่อย จึงหยิบเอาบทกลอนของ สุนทรภู่ ที่แฝงไปด้วยคติสอนใจในเรื่อง พระอภัยมณี มาฝากน้องๆ 7 บทกลอนด้วยกันค่ะ
 


 

     บทกลอน 1  :   ตอน นางละเวงวัณฬาตัดพ้อพระอภัยมณี

พระอภัยมณีได้นางละเวงวัณฬาเป็นชายาอีกคนแล้วนางละเวงก็ได้ใช้จริตผู้หญิงในการตัดพ้อว่าพระอภัยมณีก็คงจะแค่พูดคำหวานให้นางฟังแค่ตอนนี้ พอหมดรักนางก็คงจะหนีกลับไป และไม่สนใจนางอีกแน่นอน

กลอนนี้สอนเรื่อง : การเปลี่ยนแปลงของความรัก เมื่อยามที่รักกันอะไรก็ดีไปซะหมด แต่เมื่อหมดรักต่อให้จะทำอะไรก็ไม่ดี สำหรับกลอนบทนี้ก็ยังนิยมใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เพราะมีการใช้คำเปรียบเทียบให้เห็นภาพ เป็นการให้ข้อคิดและสอนให้รู้จักความรักได้เป็นอย่างดี พี่ชอบกลอนบทนี้มากเลยค่ะ รู้สึกว่ามันช่างเป็นความจริงซะเหลือเกิน
 


 

     บทกลอน 2 :   ตอน พระฤาษีสอนสุดสาคร

หลังจากสุดสาครถูกชีเปลือยผลักตกหน้าผา แย่งเอาม้านิลมังกรและไม้เท้ากายสิทธิ์ไป พระฤาษีก็ตามมาช่วยได้ทันจึงได้กล่าวสอนสุดสาครถึงการไว้ใจมนุษย์

กลอนนี้สอนเรื่อง : อย่าไว้ใจใครง่ายๆ จิตใจของคนนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา วันนี้คิดดี ปฏิบัติดี พรุ่งนี้อาจกลายเป็นตรงกันข้าม เปรียบกับเถาวัลย์ในป่าที่พันกันคดเคี้ยวนั้นก็ยังไม่คดเท่าจิตใจของคนเรา พราะจิตใจของมนุษย์ไม่อาจเดาได้ เหมือนคำที่ว่า รู้หน้าไม่รู้ใจ จะไว้ใจใครก็คิดไตร่ตรองพิจารณาให้ดีนะคะ
 


 

     บทกลอน 3 :   ตอน พระฤาษีสอนสุดสาคร

หลังจากสุดสาครถูกชีเปลือยผลักตกหน้าผา แย่งเอาม้านิลมังกรและไม้เท้ากายสิทธิ์ไป พระฤาษีก็ตามมาช่วยได้ทันจึงได้กล่าวสอนสุดสาคร

กลอนนี้สอนเรื่อง : ให้รู้จักระมัดระวังรอบคอบ รู้จักรักษาตัวให้พ้นจากภัยอันตราย เราไม่รู้เลยว่าใครคิดอย่างไรกับเรา การเรียนรู้ที่จะรับมือและเอาตัวรอดจึงเป็นสิ่งสำคัญค่ะ
 


 

     บทกลอน 4 :   ตอน อภิเษกศรีสุวรรณ

เป็นตอนที่ศรีสุวรรณแอบเข้ามาหานางเกษราในห้อง นางเกษรากลัวจะมีคนมาเห็นเข้าแล้วจะเอาไปนินทาจึงห้ามปราม แต่ศรีสุวรรณก็ตัดพ้อและบอกว่าอย่าสนคำนินทาเลย 

กลอนนี้สอนเรื่อง : คำพูดนินทากันเหมือนกับการเทน้ำ ไม่มีผลกระทบใดไม่เจ็บช้ำ เหมือนกับการเอามีดไปขีดลงบนหิน แต่ก็ไม่ได้สร้างความเจ็บปวดแก่หินได้ พี่คิดว่าในโลกนี้คงไม่มีใครไม่ถูกนินทา ถึงเราจะทำดีถ้าเขาไม่ชอบเราเขาก็นินทาเราอยู่ดี เมื่อเราได้กระทำความดีแล้วก็ขอให้ตั้งใจทำต่อไปนะคะ อย่าไปใส่ใจกับคำติฉินนินทาให้ระเคืองใจเลยดีกว่าค่ะ
 


 

     บทกลอน 5 :   ตอน พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณเรียนวิชา

เป็นตอนที่พระอภัยมณีกับศรีสุวรรณนั้นสำเร็จวิชาและเดินทางกลับกรุงรัตนาเข้าเฝ้าพระราชบิดา ท้าวสุทัศน์ได้ทรงทราบแล้วก็ทรงพิโรธเห็นว่าวิชาที่เรียนมานั้นไม่สมควรแก่ราชกุมาร จึงออกปากขับไล่จากเมือง จึงพากันออกจากเมืองเข้าสู่ป่า แล้วหารือกันถึงความยากลำบากที่จะประสบต่อไปในอนาคต พระอภัยมณีจึงได้กล่าวปลอบศรีสุวรรณ

กลอนนี้สอนเรื่อง : เป็นการสอนให้เราเห็นความสำคัญของการศึกษาหาความรู้ การศึกษาเป็นทรัพย์ที่ติดกายเราจนตาย ใครก็ขโมยเอาไปไม่ได้ ตราบใดที่เรายังมีความรู้ติดตัวก็อย่าไปกลัวที่จะลงมือทำสิ่งใด สักวันคงประสบความสำเร็จขึ้นมา
 


 

     บทกลอน 6 :   ตอน สุดสาครเข้าเมืองการะเวก

เมื่อสุดสาครตามไปเอาไม้เท้ากายสิทธิ์คืนจากชีเปลือยที่เมืองการะเวก และได้เล่าความให้พระสุริโยทัยฟัง พระสุริโยทัยโกรธชีเปลือยที่ลวงฆ่าสุดสาครและมาหลอกลวงชาวเมือง จึงสั่งจับชีเปลือยไปฆ่า สุดสาครคิดสงสารจึงทัดทานไว้ ไม่อยากให้สร้างเวรกรรมต่อไป

กลอนบทนี้สอนว่า : การโกรธแค้นพยาบาทมีแต่จะสร้างเวรสร้างกรรมต่อกันไปเรื่อยๆ และต้องวนเวียนชดใช้กรรมไม่จบสิ้น ให้คิดเสียว่าเป็นเพราะเวรกรรมที่ทำให้ต้องเจอเรื่องร้ายๆ
 


 

     บทกลอน 7 :   ตอน ศรีสุวรรณลานางเกษรา

ศรีสุวรรณจะออกตามหาพระอภัยมณี จึงได้ไปร่ำลานางเกษราขอให้อยู่กับพระบิดาและเลี้ยงลูกเพราะพระองค์ต้องจากไปนับปี นางเกษราวิงวอนขอติดตามไปด้วย ศรีสุวรรณจึงได้กล่าวปลอบนาง

กลอนบทนี้สอนว่า : มนุษย์กับเรื่องทุกข์โศก โรคภัยเป็นของคู่กันวนเวียนไม่จบสิ้น มีความทุกข์กับความสุขที่เวียนกันไป ตามกรรมดีหรือกรรมชั่วที่แต่ละคนได้สร้างไว้ ให้ทำใจยอมรับเสียดีกว่า
 

จบแล้วค่ะ สำหรับบทกลอนสอนใจของ  สุนทรภู่ ที่พี่ได้นำมาฝาก เป็นอย่างไรกันบ้างคะยังพอจำแต่ละบทกลอนกันได้ไหมคะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ได้นะคะ หรือถ้าใครมีบทกลอนไหนที่อ่านแล้วโดนใจ ได้ข้อคิด จากเรื่องพระอภัยมณีอีก ก็สามารถมาแชร์ความคิดเห็นกันได้นะคะ ไว้คราวหน้าเดี๋ยวพี่จะนำสาระดีๆ มาฝากอีกค่ะ บ๊ายยยบายยย
 

พี่น้ำ ^^

Dek-D Team ทีมคอลัมนิสต์ Dek-D

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

3 ความคิดเห็น

กำลังโหลด
ด.ญ.ชวพร ชิณวรรณะ 16 ส.ค. 64 19:39 น. 2

จบแล้วค่ะ สำหรับบทกลอนสอนใจของ สุนทรภู่ ที่พี่ได้นำมาฝาก เป็นอย่างไรกันบ้างคะยังพอจำแต่ละบทกลอนกันได้ไหมคะ หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์กับน้องๆ ได้นะคะ หรือถ้าใครมีบทกลอนไหนที่อ่านแล้วโดนใจ ได้ข้อคิด จากเรื่องพระอภัยมณีอีก ก็สามารถมาแชร์ความคิดเห็นกันได้นะคะ ไว้คราวหน้าเดี๋ยวพี่จะนำสาระดีๆ มาฝากอีกค่ะ บ๊ายยยบายยย

0
กำลังโหลด
กำลังใจให้คุณ 13 พ.ค. 67 03:40 น. 3

ดีมากๆ เลยครับ ถ้ามีภาพประกอบด้วยน่าจะทำให้เด็กๆ เห็นภาพชัดเจน และเข้าใจได้ง่ายขึ้นครับ

0
กำลังโหลด
กำลังโหลด