Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

25.15.66 นักเขียนพลังบวกที่มีอยู่จริง กับข้อพิสูจน์ว่าการเป็นนักเขียนต้องเริ่มที่ลงมือทำ

สิ่งที่นักเขียนมีไม่แตกต่างกันคือ ความพยายาม
ผลงานของนักเขียนทุกคน แตกต่างและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

25.15.66
 


สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน ตัวเลข 25.15.66 ที่เราเห็นกันบ่อยๆ ในหน้าท็อปนิยายเด็กดี คือ นามปากกาของ “สตางค์” นักเขียนนิยายวายที่สร้างชื่อตัวเองบนเว็บไซต์นิยายเด็กดีจนโด่งดัง และกลายเป็นที่รักของนักอ่านตั้งแต่ผลงานนิยายเรื่องแรกกันเลยทีเดียว ใครที่ชอบสิงอยู่หมวดนิยายวายเป็นประจำ น่าจะเห็นนิยายเรื่อง Your Sky #กี่หมื่นฟ้า และ My Moon #ใกล้แค่พันลี้ แย่งกันติดท็อปนิยายอยู่เสมอ จนทำให้หลายคนแปลกใจว่านิยายของนักเขียนคนนี้มีดีอย่างไร ทำไมถึงมีแฟนๆ นักอ่านคอยให้การสนับสนุนอยู่เสมอ

บทสัมภาษณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะเราอยากจะอวยนักเขียนนิยายติดท็อปแต่อย่างใด ทว่าเราสนใจ “พลัง” บางอย่างซึ่งเป็นเอกลักษณ์ หรือไม่ก็คงเป็นเสน่ห์ของนักเขียนสาวคนนี้ ที่ทำให้นักอ่านจำนวนมากรอติดตามผลงาน เข้าไปพูดคุยกันทั้งในหน้าบทความนิยาย และในทวิตเตอร์ด้วยชื่อแฮชแท็กของนิยาย จนทำให้ทุกครั้งที่เราขอให้นักอ่านชาวเด็กดีช่วยแนะนำนิยายเด็กดีกันหน่อย กลับพบว่า #กี่หมื่นฟ้า และ #ใกล้แค่พันลี้ เป็นนิยายที่ได้รับการแนะนำจากนักอ่านเป็นอับดับต้นๆ อยู่เสมอ 

นี่จึงเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจของนักเขียนนามปากกา 25.15.66 ที่ทำให้พี่แนนนี่เพนอยากรู้จักตัวตนของเธอมากขึ้น เพราะนอกจากนิยายของเธอที่อ่านแล้วละมุนหัวใจ อยากยิ้มทุกครั้งเมื่อได้อ่านแต่ละตัวอักษร พี่ค้นพบว่าภายใต้ความอบอุ่นหัวใจ มีพลังบางอย่างเชื่อมใจของเราเอาไว้ และพลังที่ว่าก็คือ “พลังบวก” จากนักเขียนที่ถ่ายทอดผ่านตัวอักษรทุกตัวนั่นเอง ที่ทำให้เรารู้สึกไว้วางใจในตัวตนของเธอ และกล้าเปิดใจ พูดคุยเรื่องราวต่างๆ ต่อกันมากขึ้น 

ในวันที่พี่แนนนี่เพนติดต่อสัมภาษณ์ “สตางค์” ไปจนถึงวันนี้ เราได้เห็นพลังบวกจากการตอบคำถามของเธอ เหมือนดังนิยายที่เธอเขียนลยค่ะ และนี่คือคำตอบที่จะทำให้เรารู้จักนักเขียนเจ้าของนามปากกา 25.15.66 มากขึ้น
 


 

ตัวตนที่แท้จริงของ “25.15.66”

(1)

สวัสดีค่ะ ชื่อ สตางค์ นะคะ แต่ทุกคนเรียกว่า ‘ตังค์’ สั้น ๆ ได้เลยค่ะ ตอนนี้ตังค์อายุ 24 ย่างเข้า 25 แล้วค่ะ วันที่ 25 พ.ย. นี้ก็อายุครบ 25 พอดีเลย ตอนนี้ก็เรียนจบมาได้ 2 ปีแล้วค่ะ ทำงานอยู่กับพี่สาวของตังค์เอง เป็นธุรกิจส่วนตัวของพี่สาวค่ะ ตังค์เขียนนิยายไปด้วย ช่วยพี่ทำงานไปด้วย เพราะตังค์คิดว่างานเขียนก็มีความสำคัญไม่แพ้งานของพี่สาวเหมือนกัน ตังค์เลยต้องรับผิดชอบงานทั้ง 2 ส่วนนี้แบบเต็มตัวเลยค่ะ 

(2)

ก่อนที่ตังค์จะตัดสินใจก้าวเข้ามาเขียนนิยาย ต้องย้อนไปเล่าก่อนว่า ตอนที่ยังเด็ก ตังค์ชอบสร้างตัวละครขึ้นมาในหัว แล้วก็เขียนบทสนทนาของตัวละครใส่ในสมุดเล่มเล็กๆ เอาไว้ หลังจากนั้นก็เอาไปให้พี่สาวกับพี่ๆ แถวบ้านอ่านเล่นกันค่ะ แต่ตอนนั้นตังค์ก็ยังไม่รู้ว่าการเขียนไดอาล็อกสั้นๆ ตามจินตนาการในวัยเด็ก คือการที่ตังค์เริ่มตกหลุมรักงานเขียน และจะสามารถต่อยอดมาเขียนนิยายเรื่องยาวได้ในปัจจุบัน 

(3)

จนเข้ามหาลัย ตังค์ก็เริ่มหัดเขียนมาเรื่อยๆ เขียนอ่านเองบ้าง ให้พี่สาวกับเพื่อนของพี่อ่านบ้าง แต่งแฟนฟิคบ้าง เขียนมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายตังค์ก็รู้ว่าตัวเองคงหนีไม่พ้นการเป็นนักเขียนแน่ๆ เพราะปกติตังค์จะเป็นคนเบื่อง่ายค่ะ ไม่ค่อยชอบทำอะไรเดิมๆ ซ้ำๆ แต่พอเป็นงานเขียน ตังค์สามารถอยู่ด้วยได้นานมากๆ ช่วงแต่ง #กี่หมื่นฟ้า ตังค์อยู่หน้าโน้ตบุ๊กได้นานถึง 7-8 ชม. ต่อวันเลยค่ะ (แต่เดี๋ยวนี้ไม่ได้แล้วนะคะ ร่างกายไม่ไหวค่ะ) และตังค์ก็ค่อนข้างซีเรียสกับงานเขียน ไม่ค่อยปล่อยผ่านรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เลย ซึ่งตังค์ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน การที่ตัวเองเปลี่ยนไป และมีความแตกต่างเกิดขึ้นในตัวเอง ทำให้มั่นใจว่าเรารักงานเขียนมากจริงๆ 

(4)

ตังค์ถามตัวเองซ้ำๆ ว่าชอบงานเขียนจริงๆ ใช่ไหม เพราะเวลาตังค์ทำบางอย่างที่ชอบหรือรัก ตังค์จะไปสุดมากเลยค่ะ ไม่ถึงเป้าหมาย ไม่ประสบความสำเร็จ ตังค์ไม่ยอมหยุดเด็ดขาดเลย ครั้งนี้ตังค์ก็ไม่อยากหยุดอยู่ครึ่งๆ กลางๆ ถ้ามั่นใจว่าชอบและรักจริง ตังค์จะได้มุ่งหน้าไปให้สุดเลย แล้วคำตอบก็ชัดเจนว่า...นอกจากครอบครัวและคนที่ตังค์รักแล้ว ตังค์คงไม่สามารถทุ่มเทให้กับอะไรได้มากเท่างานเขียน หลังจากนั้นตังค์ก็เลยเริ่มเขียนนิยายเรื่องยาวอย่างจริงจังเลยค่ะ
 

ตัวตนที่สร้างขึ้นใหม่ในชื่อ “25.15.66” 

(1)

จริงๆ นามปากกา 25.15.66 มีความเป็นมาที่ค่อนข้างมีความหมายกับตังค์มากๆ เลยค่ะ เพราะว่านามปากกานี้ คุณพ่อและคุณปู่เป็นคนให้มา ตอนที่เราจะเริ่มเขียนนิยายสักเรื่อง แน่นอนว่าเราจะต้องหานามปากกาของตัวเองก่อน ตังค์ก็เป็นหนึ่งคนที่คิดหานามปากกาอย่างหนักเลยค่ะ เพราะว่าตังค์อยากได้นามปากกาที่เห็นแล้วทำให้นึกถึงคนที่ตัวเองรักมากๆ ซึ่งคนคนนั้นก็คือคุณพ่อค่ะ (แต่ตังค์ก็รักแม่มากเหมือนกันนะคะ) เพียงแต่ว่าคุณพ่อจะอยู่เคียงข้างตังค์ในทุกช่วงเวลาที่ตังค์ต้องตัดสินใจเริ่มต้นทำอะไรใหม่ๆ เสมอ คุณพ่อจึงเป็นกำลังใจสำคัญของตังค์มากๆ เลยค่ะ  

(2) 

ตังค์จำได้ว่าในคืนวันนั้นที่ต้องเลือกนามปากกาอย่างจริงจังแล้ว ตังค์ก็คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนต้องเริ่มต้นมาจากตัวเราก่อน ต้องเกิดขึ้นมาจากเราเสมอ ตังค์เลยนึกถึงเลข 25 ซึ่งเป็นวันเกิดของตัวเองค่ะ หลังจากนั้นก็เลยคิดว่ามีตัวเองแล้วก็อยากให้มีคุณพ่ออยู่ด้วย ตังค์เลยเอาวันเกิดของคุณพ่อ คือวันที่ 15 มาใส่ค่ะ 

(3) 

แล้วตังค์ก็คิดต่อว่า ตังค์รักคุณพ่อมากๆ แล้วคุณพ่อรักใครเท่าที่ตังค์รักคุณพ่อนะ ตังค์เลยคิดถึงคุณปู่ค่ะ เพราะคุณพ่อสนิทกับคุณปู่มากๆ เหมือนที่ตังค์สนิทกับพ่อ แล้วตัวตังค์เองก็ผูกพันกับคุณปู่พอสมควร แต่ท่านเสียไปได้หลายปีแล้ว ตังค์เลยถามวันเกิดของคุณปู่กับคุณพ่อ แต่ว่าคุณพ่อบอกว่าคนสมัยก่อนจะไม่จำวันเกิดตัวเองค่ะ ตังค์เลยได้แค่ พ.ศ. เกิดมา ตัดเอามาเพียงแค่ 2 ตัวท้ายเท่านั้น 

(4) 

พอได้เลข 25.15.66 มาตั้งแล้ว ตังค์ก็เลยลองเอาเลขมาบวกกัน 2+5+1+5+6+6 ผลลัพธ์มันจะเท่ากับ 25 ค่ะ ซึ่งวนกลับมาเป็นตัวของตังค์เองอีกครั้ง เหมือนที่ตังค์คิดไว้แต่แรกว่า...แม้ว่าเราจะมีคนที่รักและคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเกิดจากตัวเราก่อนเสมอ ตังค์เลยตัดสินใจใช้นามปากกานี้ค่ะ
 

#กี่หมื่นฟ้า ก้าวแรกด้วยยอดวิวกว่า 2 ล้านวิว

(1)

ฟีดแบ็กจากนักอ่านเกินจากที่ตังค์คาดไว้มากๆ เลยค่ะ มันเลยความคาดหมายของตัวเองไปเยอะมากจริงๆ ตอนแรกตังค์กลัวว่าจะไม่มีคนอ่านด้วยซ้ำ ตังค์เคยบอกคุณพ่อว่า ไม่รู้จะมีคนอ่านไหม แต่คุณพ่อบอกกับตังค์ว่า...ให้ตังค์ลุกไปเขียน พ่อเชื่อว่าตังค์ทำได้ แต่ไม่ให้หวังอะไรมาก ให้ตั้งคนอ่านไว้ในใจแค่ 10 คนพอ ถ้าเลยจากนี้ไปแล้ว ถือว่าเป็นโชคดีของเราที่เจอคนชอบแนวเดียวกัน แต่พอได้รับกำลังใจและฟีดแบ็กตอบกลับมาเยอะกว่าที่หวังไว้ก็ทำให้มีกำลังใจขึ้นมากเลยค่ะ จริงๆ ตลอดเวลาที่แต่งเรื่องนี้ตังค์ไม่ได้รู้สึกเหนื่อยเลยนะคะ คงเพราะได้รับกำลังใจจากนักอ่านอยู่เสมอ

(2)

สำหรับเรื่อง Your Sky #กี่หมื่นฟ้า ตังค์ได้แรงบันดาลใจมาจากคำ 3 คำ กับอีก 2 ข้อสงสัยค่ะ คำ 3 คำที่แวบเข้ามาในหัวคือ แอบรัก , ซื่อสัตย์ , ลึกซึ้ง และอีก 2 ข้อสงสัยของตังค์คือ ถ้าคนคนหนึ่งแอบรักใครสักคนอย่างสุดหัวใจ เขาจะรักได้มากแค่ไหน และรอได้นานเท่าไหร่ แล้วหลังจากนั้นตังค์ก็เริ่มเขียนพล็อตเลยค่ะ ก่อนจะมาเลือกตัวละครว่าให้มีคาแรคเตอร์ยังไง คนแบบไหนที่จะเข้าคู่กันแล้วลงตัว ส่วนเรื่องชื่อของตัวละครจะเป็นลำดับสุดท้ายเลย

แต่ก่อนเริ่มเขียนจริงๆ ตังค์คิดไว้ในใจว่าอยากให้นิยายเรื่องนี้สื่อให้นักอ่านรับรู้ถึง ‘ความรักที่ซื่อสัตย์และมั่นคง’ ค่ะ เพราะตังค์มักจะเห็นเพื่อนและคนรอบข้างเสียใจกับเรื่องความรักเยอะมากๆ หนึ่งในปัญหาที่ตังค์เจอก็คือเรื่องของคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ หลายๆ คนรอบตัวตังค์หมดศรัทธาในความรักไปเลย เวลาเห็นคนที่หมดศรัทธาในความรักแล้วรู้สึกเศร้าใจอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ เพราะตังค์คิดเสมอว่า...ไม่มีใครหรอกที่ไม่ต้องการความรัก ทุกคนต่างอยากเป็นที่รักของใครสักคนทั้งนั้น และตังค์ไม่อยากให้ใครต้องหมดศรัทธากับความรักไปก่อนที่จะเจอคนที่รักตัวเองอย่างแท้จริง ตังค์เลยอยากถ่ายทอดมุมมองความรักของคนที่หมดศรัทธาในความรักที่วันหนึ่งกลับมาเชื่อในความรักอีกครั้ง และหวังว่าสิ่งที่ตัวเองพยายามถ่ายทอดออกไปจะเป็นประโยชน์กับใครสักคน

(2+)

ตัวละครในเรื่องที่อ้างอิง มาจากคนที่มีตัวตนจริงๆ คือ คุณปู่ของที่รักค่ะ คุณปู่ในเรื่องมีต้นแบบมาจากคุณปู่ของตังค์ที่เสียไปแล้ว สาเหตุที่ตังค์อยากให้มีตัวละครนี้ ทั้งที่ไม่มีก็ได้ เพราะในโลกของความเป็นจริงคุณปู่ได้จากไปแล้ว ตังค์เลยอยากให้เขาอยู่ในโลกอีกใบที่ตังค์รักมากๆ ค่ะ

(3)

#กี่หมื่นฟ้า ทำให้ตังค์ได้เรียนรู้อะไรเยอะมากๆ เลยค่ะ อย่างแรกเลย...นิยายเรื่องนี้ทำให้ตังค์ได้รู้จักตัวเองจริงๆ ได้รู้ว่าตังค์รักและศรัทธาต่อคำว่า ‘นักเขียน’ และ ‘งานเขียน’ มากขนาดไหน ได้เรียนรู้เรื่องของงานเขียนอย่างจริงจัง ก่อนจะเขียนเรื่องนี้ตังค์ศึกษาวิธีการเขียนมาเยอะมากๆ เลยค่ะ แต่ตังค์ก็คิดว่าต่อให้ศึกษามาเยอะแค่ไหนก็ยังไม่พอ เพราะตังค์ยังต้องเรียนรู้ต่อไปเพื่อพัฒนาการเขียนของตัวเองให้ดียิ่งขึ้นกว่านี้ ตังค์รู้สึกว่านิยายเรื่อง #กี่หมื่นฟ้า ทำให้ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างมากจนเอ่ยได้ไม่หมดเลยค่ะ บางความรู้สึกที่หนักหนาและบางเบาที่ผ่านไปแล้ว ตังค์ก็ปล่อยให้มันตกตะกอนอยู่ในใจ จนตอนนี้ไม่สามารถอธิบายได้เลยค่ะ ตังค์รู้สึกแค่ว่า...ทุกประสบการณ์ที่ได้เรียนรู้จากนิยายเรื่องนี้ ทำให้ตังค์เติบโตขึ้นในทุกวัน และเป็นคนที่มีหัวใจเข้มแข็งขึ้นทุกครั้งที่ต้องเผชิญปัญหา
 

#ใกล้แค่พันลี้ ก้าวสองที่นักอ่านตกหลุมรัก

(1)

ตอนนี้ตังค์กำลังเขียนเรื่อง My Moon #ใกล้แค่พันลี้ อยู่ค่ะ เรื่องนี้ตังค์วางพล็อตไว้ตั้งแต่เริ่มเขียน #กี่หมื่นฟ้า แรกๆ แล้วค่ะ ความตั้งใจแต่แรกคืออยากให้เป็นเรื่องของพี่ชายอย่าง หมื่นฟ้า ก่อน แล้วค่อยมาเป็นเรื่องของน้องชายอย่าง พันลี้ ค่ะ แรงบันดาลใจของเรื่องนี้มาจาก ‘ทุกคนที่กำลังหมดกำลังใจ’ ค่ะ ตังค์อยากให้เรื่องนี้เป็นกำลังใจให้ใครหลายๆ คนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบากในแต่ละวัน เพราะตังค์คิดว่า...ในหนึ่งวัน บางคนต้องทำงานหนักมาก น้องๆ บางคนก็เรียนหนัก ทุกคนมีหน้าที่และภาระที่ต้องแบกรับ และแน่นอนว่าทุกปัจจัยที่เอ่ยมาก่อให้เกิดความเครียด ตังค์นึกสงสัยว่าในหนึ่งวัน คนที่เครียดมากๆ จะได้ยิ้มกี่ครั้งกัน ตังค์ก็เลยอยากเขียนอะไรที่ทำให้คนอ่านรู้สึกได้รับกำลังใจกลับไป ทำให้คนอ่านรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้เจอเรื่องแย่ๆ เจอวันที่ใจร้ายอยู่คนเดียว 

(2)

อย่างตัวละครเอกอย่าง ใกล้ใจ ที่เป็นนายเอก ชีวิตของเขาจะเจอเรื่องแย่ๆ เจอคนไม่ดีมาตลอด แต่เขาก็ยังสู้ ยังให้กำลังใจตัวเอง และก้าวข้ามผ่านทุกความยากลำบากมาได้ จนมาเจอพันลี้ที่เป็นกำลังใจสำคัญ เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิต ตังค์อยากให้ทุกคนที่เจอเรื่องไม่ดีอย่างใกล้ใจ อย่าเพิ่งหมดหวัง อยากให้สู้กันต่อไป และเชื่อว่าสักวันเราจะเจอคนที่เป็นทั้งกำลังใจและแสงสว่างในชีวิตให้เราค่ะ 

(3)

ส่วนชื่อเรื่อง My Moon #ใกล้แค่พันลี้ ด้วยเรื่องของพี่ชายเป็น Your Sky หรือแปลเป็นไทยว่า ท้องฟ้าของคุณ หมายถึงคนแอบรักก่อนอย่างหมื่นฟ้าให้ตัวเองได้เป็นท้องฟ้าของที่รัก ตังค์ก็อยากให้ชื่อเรื่องของน้องชายใกล้เคียงกับพี่ชายค่ะ ตังค์เลยโทรไปถามคุณพ่อว่า...พ่อ พอเราคิดถึงท้องฟ้าแล้ว เราจะคิดถึงอะไรได้อีก คุณพ่อเลยถามต่อว่า ท้องฟ้าตอนไหน? พอตังค์คิดถึงพล็อตเรื่องนี้ ใกล้ใจเป็นคนที่ชีวิตหม่นๆ มาตลอด ตังค์เลยเลือกท้องฟ้าตอนกลางคืน คุณพ่อเลยตอบว่า ‘พระจันทร์’ ตังค์เลยได้คำว่า Moon มา และด้วยความที่เรื่องนี้ ตังค์อยากให้นายเอกเป็นฝ่ายแอบรักก่อนบ้าง ก็เลยย้อนมองมุมของนายเอกว่าถ้าพระเอกมีชื่อจริงที่แปลว่า ดวงจันทร์ นายเอกที่แอบชอบพระเอกก่อน จะให้พระเอกเป็นอะไรสำหรับตัวเอง คำตอบก็คือต้องเป็น ‘พระจันทร์ของฉัน’ ชื่อเรื่องเลยได้เป็น My Moon ค่ะ ส่วนแฮชแท็ก #ใกล้แค่พันลี้ ตังค์ขอเก็บความหมายไว้เป็นความลับก่อนนะคะ 555 จะเฉลยให้ตอนใกล้จบเรื่องค่ะ

(4)

ฟีดแบ็กดีเกินคาดเหมือนเดิมเลยค่ะ 555 มีนักอ่านมาให้กำลังใจกันเยอะมากๆ เลยค่ะ ทั้งที่ติดตามกันมาตั้งแต่เรื่อง #กี่หมื่นฟ้า จนกระทั่งมาถึงเรื่องนี้ และก็มีนักอ่านที่เพิ่งมาอ่านเรื่อง #ใกล้แค่พันลี้ เป็นเรื่องแรกเพิ่มมาอีกเยอะเลยค่ะ แต่ทุกคนน่ารักกันมากจริงๆ คอมเมนต์และติดแท็ก #ใกล้แค่พันลี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้ตังค์เสมอเลย

ความแตกต่างของนิยายที่ลงตัว

(1)

ตังค์รู้สึกว่าอารมณ์ไม่ต่างจากตอนเขียนเรื่อง #กี่หมื่นฟ้า มากเท่าไหร่ค่ะ เนื้อเรื่องก็จะน่ารักๆ ชวนยิ้มเหมือนเดิม เพียงแค่ช่วงแรกของเรื่องนี้จะเศร้าๆ หน่อย เพราะใกล้ใจที่เป็นนายเอกจะเจอเรื่องไม่ดี เจอคนไม่ดีมาตลอด แต่หมดจากการปูเรื่องราวชีวิตที่ผ่านมาในอดีตของใกล้ใจไปแล้ว เนื้อเรื่องที่ดำเนินต่อจากนี้ก็จะคล้ายๆ เรื่อง #กี่หมื่นฟ้า ตรงที่มีความน่ารัก สุข ซึ้ง และอิ่มเอมใจค่ะ แต่ในความรู้สึกของตังค์ สองเรื่องนี้มีความแตกต่างในตอนเขียนอย่างชัดเจนในเรื่องของความรู้สึกตัวละครค่ะ 

(2)

เรื่อง #ใกล้แค่พันลี้ ใกล้ใจเป็นคนที่มีความรู้สึกที่ละเอียดอ่อนมาก และมีความคิดที่ซับซ้อนนิดๆ (อันนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวของตังค์ที่เป็นคนเขียนนะคะ ส่วนคนอื่นอาจจะรู้สึกต่างกันออกไปค่ะ) เวลาตังค์เขียนจะต้องพยายามทำความเข้าใจเขามากๆ เพราะเขาเป็นคนที่มีเหตุผลและคิดเยอะ เรียกว่าโตกว่าอายุก็ได้ค่ะ ทุกอย่างที่เขาทำจะต้องผ่านการคิดไตร่ตรองมาอย่างดีแล้ว

ตังค์เลยคิดว่าตอนเขียนเรื่องนี้มีจุดยากเรื่องของความรู้สึกนึกคิดของตัวละครค่ะ แต่ตังค์ต้องยอมรับเลยว่า...ใกล้ใจเป็นตัวละครที่ตังค์รู้จักเขาดีมากๆ เพราะตอนเขียน ตังค์จะรู้เลยว่าใกล้ใจจะต้องพูดแบบไหน ตัดสินใจยังไง แก้ปัญหาด้วยวิธีไหน ถ้าเขียนไปแล้วไม่ใช่ใกล้ใจจริงๆ ตังค์จะยอมลบย่อหน้านั้นแล้วเขียนใหม่เลยค่ะ เราจะรู้ได้ในทันทีเลยว่า...นี่ไม่ใช่ใกล้ใจนะ หลุดจากใกล้ใจไปแล้ว คงเพราะตังค์พยายามที่จะเรียนรู้และศึกษานิสัยของตัวละครตัวนี้มากๆ ด้วยค่ะ คาแรคเตอร์และนิสัยของเขาถึงได้ชัดเจนในความรู้สึกของตังค์ จริงๆ เดี๋ยวตัวละครอื่นจะน้อยใจ ตังค์ก็รู้จักเป็นอย่างดีหมดเลย เพียงแค่ถ้าให้เลือกมาแค่คนเดียวว่าตอนนี้รู้จักนิสัยใครมากที่สุด ตังค์คงเลือก ‘ใกล้ใจ’ ค่ะ
 

ก้าวต่อๆ ไปของ “25.15.66”

(1)

แพลนเขียนนิยายของตังค์ต่อจากนี้มีอยู่หลายเรื่องให้ติดตามเลยค่ะ หวังว่าจะไม่เบื่อ 25.15.66 กันไปก่อนนะคะ 555 ตอนนี้เรื่องที่อยู่ในแพลนเขียนให้จบของตังค์คงจะเป็น My Moon #ใกล้แค่พันลี้ เรื่องแรกเลยค่ะ แต่ก็มีความรู้สึกว่าเรื่อง Daisy in the rain #ดอกไม้ผู้ภักดี ที่กำลังแต่งควบคู่กันอยู่อาจจะปิดต้นฉบับได้ก่อนเรื่อง My Moon #ใกล้แค่พันลี้ เพราะด้วยตอนที่มีน้อยกว่าค่ะ ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่แซงคิวพี่ๆ เรื่องอื่นที่อยู่ในแพลนขึ้นมาก่อน ตังค์ชอบความรู้สึกแปลกใหม่ของตัวเองเวลาที่ได้เริ่มลงมือเขียนเรื่อง Daisy in the rain #ดอกไม้ผู้ภักดี มากๆ เลยค่ะ เรื่องนี้เหมือนทำให้ตังค์ได้ตกหลุมรักงานเขียนซ้ำๆ ตื่นเต้นกับสิ่งที่ตัวเองทำ และอยากจะถ่ายทอดเรื่องราวความรักของพวกเขาให้ดีที่สุด เรื่องนี้จึงเป็นอีกเรื่องที่ตังค์ตั้งใจเขียนอย่างมากเลยค่ะ 

(2)

แล้วหลังจากนี้ตังค์มีแพลนเขียนนิยายให้กับทางสำนักพิมพ์อีก 2 แห่งค่ะ ซึ่งก็แซงคิว 2 เรื่องหลักของตัวเองที่ตั้งใจจะเขียนมาอีกแล้ว 555 แต่หลังจบจากเขียนกับทางสำนักพิมพ์แล้ว ตังค์ก็จะลุยเขียนนิยายของตัวเองอีก 2 เรื่องค่ะ นั่นคือเรื่อง Real Love #รักแท้ของผมคือคุณ กับ #เขียนคำว่าเจ้า ค่ะ
 

แตกต่างและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเอง

ตังค์คิดว่าไม่ใช่แค่นิยายของตังค์เพียงคนเดียวที่แตกต่างจากของคนอื่นๆ แต่นิยายของนักเขียนทุกคนล้วนแล้วแต่แตกต่างกันหมดเลยค่ะ เราต่างมีมุมมองความรักที่แตกต่างกัน มีวิธีการเล่าเรื่องและถ่ายทอดเรื่องราวความรักที่ไม่เหมือนกัน แต่ตังค์คิดว่าสิ่งที่นักเขียนมีไม่แตกต่างกันคือ ความพยายาม ค่ะ ทุกคนต่างพยายามเขียนอย่างตั้งใจ และพยายามเขียนออกมาให้ดีที่สุดเสมอ เพราะฉะนั้นตังค์เลยคิดว่า...ผลงานของนักเขียนทุกคน แตกต่างและมีเสน่ห์ในแบบของตัวเองค่ะ
 

มองนักอ่านดังคนในครอบครัว

นอกจากได้กำลังใจจากนักอ่านทุกคนแล้ว ตังค์เหมือนมีครอบครัวใหม่อีกหนึ่งครอบครัวเลยค่ะ เป็นครอบครัวที่เกิดมาจากสิ่งที่ตังค์รัก ตังค์ไม่เคยมองว่าทุกคนที่ติดตามผลงานของตังค์เป็นแค่นักอ่านเท่านั้น แต่ตังค์มองว่าทุกคนคือพี่ น้อง เพื่อน คือคนในครอบครัวของตังค์ค่ะ พอตังค์มองว่าทุกคนเป็นคนในครอบครัว ตังค์เลยคิดว่าเราสามารถคุยเรื่องอื่นกันได้ด้วย ไม่ใช่แค่อัปเดตข่าวสารเรื่องนิยายอย่างเดียว ตังค์อยากแชร์เรื่องราวในแต่ละวันของตัวเองให้เขาได้รับรู้ อย่างที่ตังค์คอยให้กำลังใจทุกคนในทุกเช้า ตังค์ไม่รู้ว่าในวันนั้นทุกคนจะต้องเจออะไรบ้าง แต่อย่างน้อยๆ ขอให้ทุกคนที่เห็นข้อความของตังค์ได้ยิ้มสักหนึ่งครั้งในหนึ่งวันก็ยังดีค่ะ
 

ส่งกำลังใจจากนักเขียนถึงนักเขียน

(1)

โควทให้กำลังใจจากนักเขียนเด็กดีเป็นกำลังใจและเป็นประโยชน์กับตังค์มากๆ เลยค่ะ อย่างโควทล่าสุดที่ตังค์รีทวิตไว้คือ ‘อย่าล้มเลิกความตั้งใจนะ ผมมีวันนี้ได้เพราะความพยายาม’ ของคุณ theneoclassic ทำให้ตังค์นึกย้อนไปถึงวันแรกที่ตัวเองเริ่มเขียน คิดถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ตัวเองพยายาม ทำให้ตังค์รู้สึกฮึดมากขึ้นกว่าเดิม ตังค์คิดว่าการเติมกำลังใจให้ตัวเอง บางทีไม่ต้องรอเติมในวันที่ตัวเองท้อมากๆ หรือหมดไฟกับบางสิ่งบางอย่างไปแล้ว เพราะถึงตอนนั้นเราจะต้องรวบรวมแรงใจแรงกายอย่างมหาศาลที่จะกู้ตัวเองกลับมา และเราจะต้องหากำลังใจให้ตัวเองมากกว่าเดิมหลายเท่าเลย ตังค์เลยชอบหาอะไรดีๆ อ่าน อ่านอะไรที่เป็นกำลังใจให้ตัวเองได้ในทุกวัน อย่างในทวิตเตอร์ของนักเขียนเด็กดี ตังค์เข้าไปดูทุกวันเลยค่ะ เพราะนอกจากจะได้รับกำลังใจแล้ว ตังค์ยังได้เคล็ดลับในการเขียนดีๆ กลับมาด้วยค่ะ อย่างอันที่ตังค์รีทวิตคือ ‘สำนวนการเขียนควรง่ายๆ อ่านง่าย ไม่ยากจนเกินไป’ ของ สตีเฟ่น คิง โดยส่วนตัวตังค์อ่านงานของเขาอยู่แล้ว พอได้เห็นทางนักเขียนเด็กดีนำมาแชร์ให้อีกก็รู้สึกขอบคุณมากๆ เลยค่ะ จริงๆ ตังค์อยากขอบคุณพี่ๆ แอดมินมากๆ เลยนะคะที่คอยหาอะไรดีๆ แบบนี้มาเติมกำลังใจให้นักเขียนทุกคนตลอดเลย

(2)

แล้วก็อย่างแรกเลย ตังค์อยากให้ทุกคนให้กำลังใจตัวเองเยอะๆ ค่ะ เพราะการให้กำลังใจตัวเองคือสิ่งสำคัญมากๆ เพราะงานเขียนเป็นงานที่ต้องยอมรับว่าต้องการกำลังใจเยอะมากๆ เพราะถ้าวันหนึ่งเราไม่มีคนอื่นมาคอยให้กำลังใจ อย่างน้อยๆ เราก็ยังมีกำลังใจที่มาจากตัวเอง และการได้รับกำลังใจจากตัวเองจะช่วยผลักดันให้เราทำในสิ่งที่รักต่อไปได้ค่ะ และตังค์ก็อยากให้ทุกคนเขียนนิยายอย่างมีความสุขในทุกๆ วัน มีแรงกายแรงใจในการหาแรงบันดาลใจใหม่ๆ เสมอค่ะ

(3)

ส่วนอันนี้ไม่รู้เรียกว่าเคล็ดลับได้หรือเปล่านะคะ เวลาตังค์เขียนนิยาย ตังค์จะคิดเสมอว่า ใจดีกับตัวเองด้วยและใจร้ายกับตัวเองบ้าง ใจดีกับตัวเองคือการที่ตังค์ให้กำลังใจตัวเองว่าแต่งดีแล้ว ตอนนี้ทำดีที่สุดแล้ว ขอบคุณที่ตัวเองทำงานหนักมาหลายชั่วโมงติดต่อกัน และใจร้ายกับตัวเองคือพยายามหาข้อผิดพลาดในตอนนั้นๆ อยู่เสมอ รายละเอียดเล็กน้อยก็ห้ามปล่อยผ่าน แม้รายละเอียดเล็กน้อยมันจะทำให้เราต้องเขียนเยอะขึ้น ต้องทำงานหนักขึ้น แต่ถ้าเราตั้งใจจะใส่รายละเอียดส่วนนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ขอให้คงความตั้งใจเดิมไว้ค่ะ และอย่าเสียดายเนื้อหาบางส่วนที่เขียนไปแล้วกับอย่ากลัวเสียเวลาค่ะ หากแต่งไปแล้วรู้สึกติดขัดในใจให้ลองแก้ใหม่ แต่ถ้าแก้แล้วไม่ดีขึ้น เราต้องลบหรือรื้อตอนนั้นใหม่เลยค่ะ แต่ก่อนจะแต่งใหม่ก็ต้องพักให้ตัวเองผ่อนคลายก่อนนะคะ และที่สำคัญอย่ากดดันตัวเองมากจนเกินไปค่ะ

ตังค์จะคอยเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ พี่ๆ และน้องๆ นักเขียนทุกคนเลยนะคะ แต่ถ้าหากใครกำลังท้ออยู่ ตังค์อยากบอกว่า ทุกความพยายามของเรามีความหมายเสมอ อดทนและสู้อีกสักหน่อยนะคะ แล้วอะไรดีๆ จะเกิดขึ้นจากความพยายามของเราค่ะ
 

“25.15.66” ถึงนักอ่านที่รักยิ่ง

(1)

ตอนนี้ตังค์ขอฝากเรื่อง My Moon #ใกล้แค่พันลี้ และเรื่อง Daisy in the rain #ดอกไม้ผู้ภักดี ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกคนด้วยนะคะ เป็นสองเรื่องที่กำลังแต่งอยู่ในตอนนี้เลยค่ะ Mood&tone ของทั้งสองเรื่องจะมีความแตกต่างกันมากเลย แต่ก็เป็นนิยายที่น่ารักและน่าจะมอบรอยยิ้มให้ทุกคนได้ทุกครั้งที่ได้อ่านค่ะ

(2)

พอคิดถึงนักอ่านที่คอยติดตามผลงานและคอยเป็นกำลังใจให้กันตลอด ความรู้สึกแรกของตังค์ต่อทุกคนคือคำว่า ‘ขอบคุณจริงๆ จากใจ’ เลยค่ะ และยังคงเป็นคำว่าขอบคุณตลอดมาที่อยากมอบให้ทุกคน ตังค์ได้รับกำลังใจและความรักจากทุกคนเยอะมากจริงๆ ค่ะ ทุกคนคอยสนับสนุนและช่วยทำให้ตังค์อยากทำในสิ่งที่รักต่อไปเรื่อยๆ ช่วยผลักดันให้ตังค์พยายามพัฒนาตัวเองอยู่ตลอด สิ่งที่นอกเหนือจากคำขอบคุณคือการบอกว่า ตังค์จะพยายามเขียนให้ดีที่สุดในทุกๆ เรื่องเลยนะคะ เพื่อตอบแทนความรักและกำลังใจที่ทุกคนมอบให้กัน ต่อจากนี้ก็ขอให้เดินต่อไปด้วยกันเรื่อยๆ เลยนะคะ รักเสมอเลยค่ะ
 

…………...

ก่อนจากกันไป น้องตังค์บอกกับทีมงานว่า “เว็บนิยายเด็กดีทำให้ตังค์มีโอกาสได้ทำความฝันของตัวเองได้สำเร็จ ได้มีความสุขกับการเป็นนักเขียนจนถึงตอนนี้” และมีถ้อยคำขอบคุณอีกมากมายที่มอบให้กับทีมงาน สมแล้วที่นักอ่านหลายคนบอกว่าเธอเป็นนักเขียนพลังบวก ที่นอกจากจะทำให้นักอ่านยิ้มได้แล้ว ยังทำให้ทีมงานทุกคนมีกำลังใจในการทำงาน และรู้สึกว่าตังค์เป็นหนึ่งในความสำเร็จของเรา ที่ทำให้นักเขียนมีโอกาสได้ทำตามฝัน ได้เผยแพร่ผลงาน และได้เป็นคนคนหนึ่งที่สามารถส่งต่อพลังความ “อยาก” เขียนถึงทุกๆ คนที่มีความฝันได้ และนี่คือ 25.15.66 นักเขียนพลังบวกของเราในวันนี้ค่ะ ^^

พี่แนนนี่เพน

5 เรื่องต้องรู้! เปิดขาย “แพ็กเกจใหม่” อย่างไรไม่ให้เสียสิทธิ์แคมเปญ “ลดราคา”

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น