นิยายแนะนำประจำสัปดาห์ ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? : 7 สเต็ปใช้ชีวิตยังไงให้สตรองเหมือน ‘ฟีร์มัว สาวน้อยพิการ’ ที่ถูกทั้งโรงเรียนบูลลี่!

นิยายแนะนำประจำสัปดาห์ ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? : 
7 สเต็ปใช้ชีวิตยังไงให้สตรองเหมือน
‘ฟีร์มัว สาวน้อยพิการ’ ที่ถูกทั้งโรงเรียนบูลลี่!

สวัสดีค่ะชาวเด็กดีทุกคน ถ้าวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต คุณมองเห็นอะไร? คุณคิดยังไง? รู้สึกยังไง? แล้วคุณจะทำยังไงต่อไป? หลายคนคงมีคำตอบที่แตกต่าง บางคนอาจจะท้อใจ หนักหน่อยคงเป็นซึมเศร้าไปแล้ว แต่นั่นไม่ใช่สำหรับฟีร์มัว สาวน้อยผู้รับบทเป็นนางร้าย (จำเป็น) ในนิยาย “ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!?” ผลงานจากปลายปากกาของ “จิ้งจอกทิวา”

ทันทีที่ฟีร์มัวเจอสถานการณ์นี้ คำตอบเดียวที่เธอยืนยันคือ “สู้ต่อไป” ในร่างกายใหม่ที่ต้องนั่งบนวีลแชร์ตลอดชีวิต แล้วแถมชีวิตบนวีลแชร์ของเธอก็ไม่ง่ายด้วยนะ เพราะเธอต้องมารับผลกระทบจากการถูกบูลลี่ในโรงเรียน เมื่อหลายสิ่งหลายอย่างที่หนักหน่วงถาโถมเข้ามาใส่ สิ่งเดียวที่ช่วยเยียวยาฟีร์มัวได้คือ “จิตใจที่เข้มแข็ง” มันช่วยให้ฟีร์มัวผ่านมรสุมอันโหดร้าย และส่งผลให้เธอกลายเป็นตัวละครที่น่าชื่นชม

ในวันนี้พี่น้ำผึ้งจึงขอชวนทุกคนมาดูแนวทางการเอาตัวรอดท่ามกลางมรสุมอันโหดร้าย ทั้งถูกบูลลี่ ถูกกลั่นแกล้ง รวมทั้งประสบการณ์ในอดีตที่แย่ของฟีร์มัว เค.ดี. เอลโลชาแตล โดย 7 ข้อที่นำมาฝากนี้จะช่วยให้เรามีจิตวิญญาณที่เข้มแข็ง ทำให้เรารักตัวเองและมีเมตตาต่อตัวเองมากขึ้น เหมือนอย่างที่ ‘ฟีร์มัว สาวน้อยพิการ’ ที่ถูกทั้งโรงเรียนบูลลี่คนนี้เป็น พร้อมแล้วตามมาดูกันได้เลยจ้า!

 

คำโปรย

เกิดใหม่ในโลกเกมจีบหนุ่มที่เคยเล่น ประสบอุบัติเหตุจนได้ความทรงจำชาติก่อนคืน 
แต่พระเจ้า..พระองค์คืนมันกลับมาในตอนที่ฉันพบ Bad End ไปแล้ว
คุณพระเอกเกมทำฉันพิการ!

 

ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!?

ผู้แต่ง : จิ้งจอกทิวา
หมวด : ฟรีสไตล์ / รักแฟนตาซี
จำนวนตอน : 120 ตอน (ยังไม่จบ)
 

 
 

01 เลือกคนที่รักคุณ ไม่ใช่คนที่คุณรัก

เคยมีคนกล่าวไว้ว่า “จงเลือกคนที่รักคุณ ไม่ใช่คนที่คุณรัก” ตอนนั้นพี่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่า เจ้าของวลีนี้เป็นบ้าไปแล้วหรือเปล่า ทำไมเราต้องเลือกคนที่เราไม่ได้รักด้วย คาใจอยู่นาน จนได้มาอ่านฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!? พี่ก็เข้าใจวลีนี้แจ่มแจ้งชัดเจนเลยค่ะ

ในเรื่อง ฟีร์มัวตกหลุมรักเจ้าชายซาร์จินหนักมาก เธอพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เจ้าชายมาครอบครอง ทำแม้กระทั่งยอมแตกหักกับเมย์ริน เพื่อนรักของเธอ แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นว่าคนที่เธอรักผลักเธอตกบันได ทำให้เธอกลายเป็นคนพิการที่ต้องอยู่บนวีลแชร์ไปตลอดชีวิต แม้ขนาดในชาติที่แล้ว ตอนที่เธอเป็นทหารหญิง หรือพลเอกหญิงเอลเน่ การ์เดียล เธอยังถูกพิษรักทำร้ายเพราะเธอถูกคนรักหักหลัง ก่อนจะทำให้รถชนตายในที่สุด

ถ้าฟีร์มัวใช้สติสักหน่อย ไม่ปล่อยให้ความหลงบังตา เธอจะพบว่าคนเหล่านั้นที่ทำร้ายเธอไม่คู่ควรกับความรักที่เธอมอบให้เลยสักนิด และเธอสมควรได้รับความรักที่ดีกว่านี้ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเราควรเลือกคนที่รักเรา ไม่ใช่คนที่เรารัก เพราะคนที่รักเรา เขาจะรักทุกอย่างที่เป็นเรา และยินดีที่จะโอบกอดทุกด้านของเรา ทั้งด้านดี ไม่ดี ทั้งตอนเหวี่ยงวีนหรือเป็นสาวน้อยมุ้งมิ้ง ที่สำคัญเขาจะเห็นคุณค่าของเรา เขาจะไม่พยายามเปลี่ยนแปลงเราเพื่อตัวเขาเอง และเขาจะทำให้เรารู้สึกเหมือนกับว่า “ฉันเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในโลก”

ดังนั้นก่อนที่เราจะเมินเฉยใครสักคนที่สนใจเรา คนที่ปฏิบัติต่อเราอย่างดีและรักเราอย่างไม่มีเงื่อนไข ลองคิดเล่นๆ ว่าถ้าเราให้หัวใจกับคนที่พร้อมจะทำร้ายหรือเอาเปรียบเรา เหมือนอย่างที่ฟีร์มัวให้หัวใจเจ้าชายซาร์จิน จนสุดท้ายเขานี่แหละทำให้เธอกลายเป็นคนพิการ มันคุ้มค่าจริงๆ แล้วหรือ? เราทุกคนสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านั้นนะ
 

02 อย่ายอมให้โดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียว

ช้าก่อน พี่ไม่ได้หมายถึงว่าให้เราทำร้ายอีกฝ่ายกลับนะ แต่หมายถึงให้ถอยต่างหาก  อย่ายอมจนกลายเป็นคนที่โดนทำร้ายอยู่ฝ่ายเดียวสิ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่พี่ได้เรียนรู้จากตัวละครฟีร์มัวร์ ตอกย้ำคำกล่าวของนิโคล โพลิซซี่ นักแสดงชาวอเมริกันชื่อดังที่ว่า “อย่าปล่อยให้สิ่งลบๆ มากระทบการใช้ชีวิตของคุณ คนเรามีคำพูดร้ายกาจได้ แต่อย่าปล่อยให้มันมาทำร้ายคุณ” อย่างชัดเจน

หลังจากฟีร์มัวร์กลายเป็นคนพิการ เธอพบว่าตัวเองถูกเพื่อนๆ ในโรงเรียนบูลลี่ด้วยการกีดกันเธอออกจากสังคม ถูกแก๊งเจ้าชายซาร์จินนินทาและหาเรื่องตลอด จนในที่สุดท่ามกลางโรงเรียนที่กว้างใหญ่ ฟีร์มัวกลายเป็นคนที่เพื่อนไม่คบ แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาสำหรับเธอ เพราะเธอมีความมั่นใจ เชื่อว่าสักวันจะต้องมีคนเข้าใจและพร้อมเป็นเพื่อนกับเธอ

ดังนั้นสิ่งที่ฟีร์มัวทำเพื่อหยุดพวกเขาไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นการเพิกเฉย ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจและไม่เก็บมาคิดมากต่างหาก คำพูดผ่านมาแล้วผ่านไป ถ้าไม่เก็บมาคิด มันก็ไม่ใช่ของเรา เหมือนกับเป็นการถอยออกมาโดยไม่โต้ตอบนั่นแหละ มันไม่ได้หมายความว่าเราแพ้ แต่มันเป็นการอนุญาตไม่ให้ตัวเองโดนทำร้าย อย่าลืม...ไม่มีใครทำร้ายคุณ มีแต่คุณต่างหากที่อนุญาตให้เขามาทำร้ายตัวคุณ
 


 

03 อย่าปล่อยให้อดีตกับอนาคตมาขโมยปัจจุบันของเรา

มันไม่ใช่แค่อนาคตที่ขโมยความสุขของเราเท่านั้น แต่อดีตก็สามารถขโมยความสุข ณ ปัจจุบันของเราได้เช่นกัน การอยู่ในอดีตอาจนำไปสู่ความเสียใจและความรู้สึกผิดที่พร้อมขับไล่ความสามารถในการรับความสุขที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วงเวลาของเราได้ ขณะเดียวกันเมื่อเรามัวแต่กังวลกับอนาคตที่มาไม่ถึง เราก็จะเกิดความทุกข์และไม่สบายใจ ทำให้เราใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างไม่มีความสุข ดังนั้นสิ่งที่ดีที่สุดคือการละทิ้งความเสียใจในอดีตและเลิกกังวลเกี่ยวกับอนาคต

เช่นเดียวกับฟีร์มัว หลังจากที่เธอฟื้น เธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเลยว่าจะเลิกยุ่งกับกลุ่มเพื่อนเก่า คือเมย์รินและเจ้าชายซาร์จินเพราะพวกเขาอคติต่อเธอ และเธอก็ไม่ได้กังวลว่าอนาคตจะมีเพื่อนคบหรือไม่ เธอแค่ปล่อยให้มันเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้นเมื่อฟีร์มัวเลิกคิดมาก เลิกเศร้าเสียใจเกี่ยวกับอดีต และไม่กังวลกับอนาคตมากเกินไป เธอก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบันได้อย่างมีความสุข แล้วเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตที่กำลังจะเข้ามา ทั้งสิ่งใหม่หรือเพื่อนใหม่ๆ

เมื่อเราตระหนักถึงช่วงเวลาที่เรามีส่วนร่วมกับทุกความรู้สึกของเรา เราจะลิ้มรสกลิ่นหอมและรสชาติของกาแฟ ได้ยินเสียงนกร้องประกาศการมาถึงของฤดูใบไม้ผลิ และสังเกตว่าแสงแดดส่องผ่านใบไม้ในฤดูร้อนอย่างไร ด้วยการใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เราจะไม่ปล่อยให้อดีตหรืออนาคตมาปล้นตัวเราในปัจจุบัน เพราะเราตระหนักว่าปัจจุบันคือสิ่งที่เรามี
 

 
 

04 เก็บอดีตมาเป็นบทเรียน อย่าปล่อยให้มันมาทำร้ายเรา

ประสบการณ์ที่ผ่านมาของเราทั้งหมดคือสิ่งที่หล่อหลอมให้เรากลายเป็นเราในทุกวันนี้ เราสามารถเสียใจกับอดีตหรือสามารถเรียนรู้จากมันได้ เราสามารถสานพรมที่สวยงามจากสิ่งที่เรียกว่า “ความผิดหวัง” และ “ความล้มเหลว” โดยรู้ว่าเส้นหลวมๆ ทุกเส้นมีบทเรียนซ่อนอยู่ ในทำนองเดียวกัน เราสามารถปล่อยให้ความผิดหวังและความล้มเหลวมาเป็นตัวกำหนดเรา ทำให้เรามีชีวิตที่แย่ลงกว่าเดิม ทุกอย่างเราเลือกได้ ทั้งหมดเป็นทางเลือกของเรา

เหมือนกับฟีร์มัว เธอเก็บอดีตจากในชาติก่อนมาเป็นบทเรียน โดยเฉพาะเรื่องความรัก ทำให้เธอได้ข้อคิดเตือนสติว่าอย่าหลงกลผู้ชายง่ายๆ และคิดให้ถี่ถ้วนก่อนมีความรัก นั่นเลยส่งผลให้เธอกลายเป็นคนที่ใช้ชีวิตไม่ประมาท อดีตหล่อหลอมให้เธอกลายเป็นคนสุขุม เด็ดขาด และสง่ามากขึ้น เธอไม่เคยแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น เธอมั่นใจในตัวเอง เชิ่ด หยิ่งเสมอ ไม่ให้คนอื่นคิดว่าเธออ่อนแอไร้กำลัง นั่นเป็นเพราะฟีร์มัวเลือกที่จะเรียนรู้จากอดีต ไม่ใช่จมอยู่กับมัน

เราจะไม่มีทางเป็นเราอย่างที่เป็นทุกวันนี้ได้เลยถ้าไม่ได้อดีตของเรามาช่วย จะเป็นอย่างไรถ้าความผิดพลาดที่เราทำเมื่อสิบปีก่อนทำให้เราไม่ได้ทำผิดพลาดในเรื่องอื่นๆ กุญแจสำคัญคือการเรียนรู้จากความผิดพลาดของเราและเดินหน้าต่อไป เราเสียใจได้ รู้สึกผิดได้ แต่เราต้องรู้จักเรียนรู้และให้อภัยทั้งตัวเราเองและคนอื่นๆ ในอดีต
 

05 อยู่กับเพื่อนที่เข้าใจในตัวเรา

มนุษย์เป็นสัตว์สังคมมาตั้งแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นเพื่อนจึงเป็นสิ่งสำคัญ แล้วมันก็ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามิตรภาพสามารถยืดอายุขัยและลดโอกาสการเกิดโรคหัวใจได้ มิตรภาพช่วยให้เราอยู่รอด มิตรภาพจุดประกายส่วนหนึ่งของสมองที่ทำให้เรารู้สึกดี ซึ่งทำให้เราอยากอยู่กับเพื่อนๆ

อย่างที่รู้กันดีว่าฟีร์มัวเป็นคนพิการที่ถูกเพื่อนๆ ทั้งโรงเรียนบูลลี่ แต่ยังดีที่โชคชะตาไม่ได้ใจร้ายกับเธอมากนัก เพราะฟ้าส่งเพื่อน 2 – 3 คนมาให้ ทำให้ฟีร์มัวไม่เหงา เปรียบเหมือนยาชูกำลังให้ฟีร์มัวมีแรง ทุกครั้งเวลาอยู่กับเพื่อน เธอมีความสุขจนลืมเรื่องเศร้าทุกอย่าง ซึ่งเพื่อนๆ นี่แหละเปรียบเสมือนน้ำหล่อเลี้ยงหัวใจอันบอบช้ำที่ดีของเธอ

เริ่มตั้งแต่มิร่า ไอดอลสาวชื่อดังที่ภายนอกเป็นคนขี้อาย ผมสีแดงใส่แว่นหน้าเตอะ ท่าทางโก๊ะๆ ทั้งสองพูดคุยจนสนิทกัน ในที่สุดฟีร์มัวก็ไว้ใจมิร่า กระทั่งวันหนึ่งมิร่าได้เจอกับพวกเมย์ริน พวกนั้นได้เป่าหูมิร่าสารพัดว่าฟีร์มัวนิสัยไม่ดี แต่สุดท้ายมิร่าก็โต้กลับว่าฟีร์มัวไม่ใช่คนแบบนั้นและยืนกรานที่จะเป็นเพื่อนกับฟีร์มัวต่อไป แน่นอนว่าฟีร์มัวมีความสุขมากที่ได้มีเพื่อนอีกครั้ง นี่ยังไม่พูดถึงอีกสองตัวละครมาใหม่ที่ยินดีจะเป็นเพื่อนและพร้อมยืนเคียงข้างฟีร์มัวในทุกๆ สถานการณ์ด้วยนะ ทั้งหมดทำให้ฟีร์มัวเข้มแข็งขึ้นมาก
 


 

06 เราเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบต่อความสำเร็จและผลลัพธ์ของเรา

การพัฒนาตัวเองคือหนทางสู่ความสำเร็จ มันเป็นสิ่งที่จะทำให้เรากลายเป็นคนที่ดีขึ้นกว่าเดิม วิธีเดียวที่จะทำให้เราเก่งและดีขึ้นเรื่อยๆ คือการพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง ลองสังเกตสิว่าถ้าเราทำในสิ่งที่เราทำมาตลอด เราก็จะได้ผลลัพธ์เดิมๆ เหมือนที่เคยทำ ซึ่งชีวิตเราก็จะไม่ก้าวไปไหน แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่เราจะประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการ

ไม่ต่างจากฟีร์มัว เธอเองก็เป็นตัวละครที่ต้องการพัฒนาตัวเอง อยากประสบความสำเร็จ ทำให้เธอยอมทิ้งบทนางร้ายมาเป็นการตั้งใจเรียนแทน ฟีร์มัวมีความมุ่งมั่น พยายามพัฒนาผลการเรียนของเธอให้ดีขึ้น จากคนที่ไม่อ่านหนังสือกลายเป็นอ่านหนังสือทุกวัน ที่ทำไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเธอเองและครอบครัว ด้วยความตั้งใจผสมกับความทุ่มเทและความไม่ย่อท้อ  ผลเลยทำให้เธอได้ที่ 1 ของโรงเรียน!

การพัฒนาตัวเองไม่เพียงแต่ทำให้ชีวิตของเราก้าวไปข้างหน้า แต่การพัฒนาตัวเองยังเป็นสิ่งที่ทำให้เรารับผิดชอบต่อความฝันของเรา เนื่องจากไม่มีใครรับผิดชอบสิ่งที่เราต้องการและไม่มีใครสามารถทำเพื่อเราได้นอกจากตัวเราเอง ลองคิดดู ถ้าฟีร์มัวอยากสอบได้คะแนนดี เธออาจไปเข้าร่วมสัมมนา ปรึกษาโค้ช หรือเรียนรู้จากเมนเทอร์ แต่ในตอนท้ายของวัน คนที่ต้องลงมือทำคือตัวเธอเอง กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ตัวเรานี่แหละที่ต้องรับผิดชอบความฝันของเราเอง ไม่มีใครสามารถผลักดันเราได้ หากเราต้องการลดน้ำหนัก เราต้องออกกำลังกายและทำตามแผนอาหาร ไม่มีใครสามารถทำแทนเราได้ เราไม่สามารถจ้างคนที่จะออกกำลังกายหรือกินผลไม้ที่เราซื้อ

ชัดเจนเลยว่าเราเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบต่อความสำเร็จและผลลัพธ์ของเรา ดังนั้นหยุดโทษและอย่าแก้ตัว เราเป็นเราเป็น ณ วันนี้เพราะการตัดสินใจและการกระทำของเราเอง และเนื่องจากไม่มีใครรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของเรา เราต้องทำงานด้วยตัวเองเพื่อที่จะได้เป็นคนในแบบที่เราต้องการ หากเราต้องการเปลี่ยนแปลง เราต้องอัปเกรดตัวเอง ต้องทำสิ่งที่แตกต่าง
 

 

07 รักทุกพาร์ทที่เป็นตัวเอง

รักตัวเองคืออะไร? มันใช่สิ่งที่เราจะได้รับจากการแปลงโฉมความงามหรือเสื้อผ้าชุดใหม่หรือเปล่า? หรือเป็นสิ่งที่เราจะได้รับจากการอ่านบางสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจ? หรือความสัมพันธ์ใหม่ที่สามารถทำให้เรารักตัวเองมากขึ้น? คำตอบของคำถามเหล่านี้คือ ไม่ใช่ แม้ว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้เรารู้สึกดีมากแค่ไหน แต่เราไม่สามารถรักตัวเองด้วยกิจกรรมประเภทนี้ได้

การรักตัวเองไม่ได้เป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่ดี แต่มันเป็นเรื่องของการชื่นชมและเห็นคุณค่าตัวเองที่เกิดขึ้นจากการกระทำที่สนับสนุนให้เรารู้จักเติบโตทั้งทางร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณของเรา การรักตัวเองคือสิ่งที่เติบโตผ่านการกระทำที่ทำให้เราเป็นผู้ใหญ่ เมื่อเรารักตัวเอง เราจะเริ่มยอมรับจุดอ่อนและจุดแข็งของเราได้ดีขึ้น เราจะยอมรับทุกด้านของตัวเอง ไม่ว่าจะสูงต่ำดำขาว เราจะรับตัวเองได้อย่างไร้ข้อกังขา เราจะมีเมตตาต่อตัวเราในฐานะมนุษย์ที่ดิ้นรนเพื่อค้นหาความหมายของชีวิต เราจะหันไปโฟกัสที่ภารกิจทางจิตวิญญาณของเรา และเติมเต็มชีวิตของเราด้วยความพยายามของเราเอง

ฟีร์มัวเป็นตัวอย่างที่ดีของคนที่รักตัวเอง แม้เธอจะมีร่างกายที่พิการ แต่เธอก็ไม่เคยเกลียดหรือต่อว่าตัวเองเลย กลับกัน ฟีร์มัวมอบความรักให้ตัวเองสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการมีเมตตาต่อตัวเอง ให้อภัยตัวเองทุกครั้งเมื่อทำผิดพลาด ยังรวมไปถึงการเห็นอกเห็นใจตัวเองและไม่เบียดเบียน หรือทำให้ตัวเองทุกข์ใจ นั่นเป็นเพราะว่าการมอบความรักให้กับตัวเองทำให้เรามีความมั่นใจและมีคุณค่า โดยทั่วไปแล้วมันจะช่วยให้เรารู้สึกดีขึ้น ทีนี้เราอาจพบว่าการตกหลุมรักนั้นง่ายขึ้นเมื่อเราเรียนรู้ที่จะรักตัวเองก่อน

 

 

สำหรับ “ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!?” ผลงานจาก “จิ้งจอกทิวา” ภาคแรกนี้เป็นนิยายรักแฟนตาซีที่ให้อารมณ์บีบคั้นและกดดันบ้างประปรายตามการถูกบูลลี่ของฟีร์มัว แต่นิยายเรื่องนี้ก็คู่ควรแก่การหยิบมาอ่าน เพราะเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีกลิ่นอายของการสร้างแรงผลักดันให้อยากพัฒนาตัวเองมากขึ้น เหมือนอย่างตัวละครหลักของเรื่องเป็น อีกทั้งยังมีวิธีการดำเนินเรื่องที่ลื่นไหล บุคลิกของตัวละครแต่ละตัวนั้นโดดเด่น โดยเฉพาะฟีร์มัว นางเอกของเรื่องที่มีความร้ายฉบับน่าเอ็นดู 

แน่นอนว่าแม้ในภาคแรกจะไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษเลยนอกจากชีวิตประจำวันของฟีร์มัว แต่มันก็สะท้อนให้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครฟีร์มัวที่กลายเป็นคนเก่งขึ้น ฉลาดขึ้น และมีความเป็นนางพญามากขึ้นค่ะ ใครที่ชื่นชอบนิยายแนวนางร้าย ขอแนะนำ “ฟีร์มัว! นางร้ายวีลแชร์!?” แรงๆ ไปเลย แล้วมาร่วมเอาใจช่วยฟีร์มัวกันนะคะ ^ ^


 

Review นิยายน่าอ่าน : 10 เหตุผลที่คุณต้องอ่าน The Lost Swordsman เมื่อทหารคนเก่งขอลาออกไปเป็นจอมยุทธ์!      Review นิยายน่าอ่าน : 10 เหตุผลที่คุณต้องอ่าน The Lost Swordsman เมื่อทหารคนเก่งขอลาออกไปเป็นจอมยุทธ์!

พี่น้ำผึ้ง
พี่น้ำผึ้ง - Columnist นักเขียนที่ชอบส่งต่อพลังบวกให้ทุกคน

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น