IamLazysheep ผู้สร้าง “ด้ายแดง”
จากการป่วยเป็นโรคซึมเศร้า
#นิยายเด็กดีเป็นซีรีส์
สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน นาทีนี้ถ้าพูดถึงซีรีส์วายที่ได้รับความนิยมมากๆ เชื่อว่า “ด้ายแดง” หรือ “Until We Meet Again the Series” จะต้องเป็นเรื่องที่หลายคนพูดถึงขึ้นมาเป็นอันดับแรกๆ แน่นอน ด้วยจุดเด่นที่นำเสนอเรื่องราวดราม่าแสนกินใจ แอบแฝงความเป็นแฟนตาซีเล็กๆ ประกอบกับเคมีนักแสดงที่เล่นเข้ากันดีดี๊ ส่งผลให้ติดท็อปเทรนด์ทวิตเตอร์ทุกครั้งที่ออกอากาศเลยค่ะ
เห็นได้รับความนิยมกันเยอะๆ แบบนี้ พี่หญิงเม้าเลยว่าก่อนถูกสร้างเป็นซีรีส์ความจริงแล้ว ด้ายแดง เคยอยู่ในรูปแบบนิยายมาก่อน! และที่สำคัญยังลงให้อ่านในเด็กดีของเราตั้งแต่ปี 2559! เมื่อรู้อย่างนี้ พี่หญิงจึงไม่พลาดที่จะชักชวน “IamLazysheep” นักเขียนให้มาร่วมพูดคุยกับเราในวันนี้กันค่ะ
IamLazysheep : สวัสดีค่ะ ชื่อ IamLazysheep ค่ะ ตอนนี้กำลังเขียนเรื่องเชือกป่านและวินนี้สีเลือดหมู ส่วนผลงานที่ผ่านมาคือด้ายแดงค่ะ
ที่เลือกใช้นามปากกา IamLazysheep เพราะเกิดปีแพะค่ะ (ฮา) แต่ที่ญี่ปุ่นจะใช้แกะแทนแพะ เราเห็นว่าน่ารักดีแถมอ้วนฟูเหมือนกันเลยเลือกที่จะใช้นามปากกานี้ ใช้มาสิบกว่าปีแล้วจนเพื่อนๆเรียกว่าแกะแทนชื่อเล่นจริงๆ ไปแล้ว แต่ความจริง IamLazysheep ไม่ใช่นามปากกาแรกค่ะ ยังมีอีกนามปากกาชื่อว่า Seesai เป็นชื่อแรกที่สมัครไอดีของเด็กดีเลย ตอนนั้นตั้งชื่อไอดีอะไรก็มีคนใช้หมดแล้ว ตั้งเป็นสีก็ไม่มีชื่อว่างเลยตั้งว่าสีใสซะเลย ชื่อนี้ตั้งเพื่อเขียนฟิคบารามอสค่ะ เขียนเป็นรุ่นลูกชื่อเรื่องว่า The theif of Kanoval
IamLazysheep : เริ่มเขียนนิยายครั้งแรกจริงๆ คือ 20 ปีก่อนค่ะ สมัยยังมีกลุ่มสาววายซีรอกซ์แจกนิยายแลกกันอ่าน ในตอนนั้นเขียนเพราะสนใจว่าถ้าเราสามารถเล่าเรื่องในหัวให้คนอื่นฟังได้จะเป็นยังไงนะ แต่เนื่องจากต้องทำงานและวุ่นวายเรื่องเรียนต่อเลยหยุดเขียนไป
ตอนนั้นเริ่มเขียนจากวายก่อน แต่ไม่เคยลงที่ไหน เขียนลงสมุดอย่างเดียว จากนั้นก็หันมาเขียนแฟนตาซี จริงๆ เป็นแนวที่ชอบที่สุดเพราะจินตนาการเรากว้างไกลได้ไม่มีจำกัด ปัจจุบันเรื่องด้ายแดงก็กึ่งแฟนตาซีนะคะระลึกชาติได้ ตอนนี้ลองเขียนแนวสโลว์ไลฟ์ ฟีลกู้ดอยู่ อนาคตมีแพลนจะเขียนแนวชายหญิงน่ารักๆ รวมถึงแนว Bad End แบบโรแมนติกค่ะ
IamLazysheep : สำหรับแกะ นิยายวายคือนิยายในอีกรูปแบบหนึ่งค่ะ ไม่ต่างไปจากนิยายชายหญิง ต่างมีเสน่ห์ในตัวเอง เวลาอ่านแกะไม่ค่อยแบ่งแยกสักเท่าไหร่ว่าอันนี้วายหรือไม่วาย 555 แต่จะดูที่สนุกหรือไม่สนุกมากกว่า
Until we meet again ด้ายแดง นิยายเรื่องนี้เกิดจากอาการป่วยเรื่องโรคซึมเศร้าค่ะ เมื่อสิบปีก่อนแกะมีอาการป่วยและไปรักษากับคุณหมอ ตอนนั้นก็ดื้อดึงกินยาบ้างไม่กินบ้างเพราะเรายังไม่เข้าใจเรื่องอาการป่วยของตัวเอง แถมสมัยนั้นคนยังไม่ค่อยรู้จักโรคนี้ไม่รู้จะไปปรึกษากับใคร จนวันหนึ่งอาการป่วยกำเริบหนักมากเกือบตายและทำให้เรารู้ว่ามีคนรอบตัวเป็นห่วงมากมาย จากนั้นแกะเลยเขียนด้ายแดงขึ้นมา มี “กรณ์” เป็นตัวแทนผู้ป่วยที่หมดหนทางไม่มีใครเข้าใจจนทำให้เกิดอัตวินิบาตกรรม และผลจากการกระทำนั้นทำให้คนเสียใจมากมาย โดยปกติแล้วเวลาเขียนตัวละครตายแกะไม่ค่อยเจอคนเขียนถึงความรู้สึกของ “คนที่เหลืออยู่” แกะเลยอยากเสนอมุมมองตรงนี้บ้าง
และระหว่างการเขียนแกะต้องเก็บข้อมูลค่อนข้างเยอะเลยค่ะ รวมถึงไปเรียนทำขนมไทยด้วย เมนูในเรื่องแกะต้องเคยลองทำหรือเคยรับประทานเกือบหมดทุกเมนูค่ะ เพื่อที่จะอธิบายในนิยายได้อย่างลื่นไหลไม่ติดขัด
เบื้องหลังฉากทำขนมของตัวละครจากซีรีส์

IamLazysheep : ตอนเขียนนิยายไม่เคยคิดเลยค่ะ ว่านิยายจะได้เป็นซีรีส์ ในครั้งแรกที่ผู้กำกับติดต่อมาแกะไม่กล้าตอบรับด้วยซ้ำ เพราะเนื้อเรื่องค่อนข้างซับซ้อนทำยากและไม่เคยได้ยินว่ามีใครจับนิยายวายดราม่าทำซีรีส์เรียกได้ว่าเสี่ยงสุดๆ แต่ผลตอบรับตอนนี้คือตกใจมาก
นอกจากนี้ ในส่วนของการสร้างซีรีส์ แกะมีส่วนร่วมในการเขียนบทค่ะ ตอนแรกปฏิเสธหัวเด็ดตีนขาดเลยเพราะแกะไม่เคยเขียนบทมาก่อน แต่ทางผู้กำกับขอร้อง สุดท้ายเราก็ลองเอาไปคิดและนึกได้ว่านิยายค่อนข้างซับซ้อนถ้าเราเขียนเองน่าจะเก็บเนื้อหาได้เกือบหมด แต่ก็มีข้อเสียนะคะ (ฮา) เพราะมันจะไม่มีอะไรแปลกใหม่จากหนังสือสักเท่าไหร่ และคำพูดตัวละครยังแปลกๆ ตอนนี้รู้แล้วว่าอะไรเป็นข้อเสีย ได้ประสบการณ์ที่ดีมากๆ เลยค่ะ
สิ่งที่ทำให้ Until we meet again ด้ายแดง ได้รับผลตอบรับดีขนาดนี้ คิดว่าส่วนหนึ่งคือแฟนนิยายที่รักและเอ็นดูพี่ดีนและน้องภามคอยเป็นแรงผลักดัน และอีกส่วนหนึ่งคือแฟนๆ ซีรีส์ที่หลงรักน้องๆ นักแสดงที่อยู่เป็นกำลังใจเสมอ เมื่อความรักทั้งสองอย่างมาเจอกันทำให้ผลตอบรับออกมาดีมากๆ เลยค่ะ
ฉากที่ประทับใจที่สุด ส่วนตัวแกะชอบฉากที่พี่ดีนไปกราบขอโทษพี่อันค่ะ ตอนที่พี่อันถามว่า “เหนื่อยไหม เจ็บรึเปล่า” เพราะแกะคิดว่าคนที่เสียคนรักไปคงอยากกอดและอยากถามคำนี้กันทั้งนั้นแต่ไม่มีโอกาส
เป็นผลงานที่เกิดจากคำเรียกร้องของแฟนๆ

IamLazysheep : เชือกป่าน เกิดจากแรงยุของนักอ่านด้ายแดงค่ะ ทุกคนอยากรู้ว่าคู่นี้จะลงเอยกันอย่างไร ซึ่งคู่ของเชือกป่านจะแมนๆ ตีกัน คู่นี้แกะอยากนำเสนอในเรื่องของคนสองคนที่ขาดอะไรบางอย่างแล้วมาเติมเต็มกันและกัน ช่วยกันแก้ปัญหา ไม่ได้จำกัดว่าคนนี้พระเอกต้องปกป้องนายเอก แต่นายเอกในเรื่องเชือกป่านเองก็เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ชอบใครสักคนและอยากปกป้องเขาเช่นกัน
ความแตกต่างระหว่างด้ายแดงกับเชือกป่าน… เชือกป่านไม่เหมือนด้ายแดงเลย (ฮา) คนละแนวสุดๆ แต่ทั้งสองเรื่องจะดำเนินไปพร้อมๆกัน ดังนั้นถ้าอ่านเชือกป่านเราจะได้เห็นน้องภามหรือพี่ดีนในมุมมองตอนอยู่กับเพื่อนๆ ว่าเป็นคนอย่างไร หรือวินทีมจากเชือกป่านทำตัวแบบไหนเมื่อเพื่อนมีปัญหา ทั้งสองเรื่องจะซัพพอร์ตกันและกันค่ะ ทำให้เนื้อหาแน่นขึ้นไปอีก

IamLazysheep : การเขียนนิยายให้สนุกสำคัญที่พล็อตค่ะ มีพล็อตให้แน่นอนว่าจะดำเนินเรื่องไปในทิศทางไหนแล้วสนุกไปกับการแต่งแต้มตัวละครให้ไปในทิศทางนั้น เมื่อไหร่ที่รู้สึกเหนื่อยหรือเขียนไม่สนุกให้หยุดพักค่ะ พร้อมแล้วค่อยกลับมาเขียน อย่าดันทุรัง

IamLazysheep : ข้อดีของการเขียนนิยายออนไลน์ คือ ฟีดแบคและมุมมองจากคนอ่านค่ะ ปกติเราเขียนคนเดียวอ่านคนเดียวก็จะเหงาหน่อยๆ แต่พอเขียนออนไลน์ก็เหมือนมีเพื่อนๆ นั่งรอนั่งลุ้นว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง บางทีก็ได้คอมเมนท์แนะนำเจ๋งๆ ทำให้เรานำไปแก้ไข พัฒนาต่อยอดได้ และที่สำคัญการเขียนออนไลน์ทำให้นิยายเรากระจายไปได้ไกล

IamLazysheep : อยากบอกน้องๆ ว่า ให้จำไว้เสมอว่าเราเขียนนิยายเพื่ออะไร ให้ยึดมั่นความคิดนั้นไว้แล้วเราจะมีความสุขมากๆ กับการเขียนส่วนคนที่คิดว่าทำไมถึงไม่มีคนอ่านนิยายเลยขอให้พยายามต่อไป พัฒนาผลงานไปเรื่อยๆ สักวันโอกาสจะมาเองค่ะ ถ้าคุณท้อและหยุดลง โอกาสจะไม่มีวันอยู่ในมือ
ส่วนนักอ่านที่ติดตามผลงาน ขอบคุณมากๆ ที่ “อดทน” รอนิยาย เพราะแกะเองติดงานประจำค่อนข้างยุ่งทำให้ไม่สามารถเขียนนิยายออกมาได้ทุกอาทิตย์เหมือนเมื่อก่อน แต่ทุกคนก็เฝ้ารอเสมอ ดีใจมากๆค่ะ
สุดท้ายนี้ ขอบคุณเด็กดีที่ให้โอกาสพูดคุยกับชาวเด็กดีนะคะ ^^ อยู่ด้วยกันมานานจนผูกพันเหมือนบ้านอีกหลังเลย เรื่องงานแกะอาจจะอัพช้าไปมากๆ แต่จะเขียนให้จบแน่นอนค่ะ
…………….
ความมุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ คือความรู้สึกที่พี่หญิงสัมผัสได้ จาก IamLazysheep หลังจากจบบทสัมภาษณ์ลงนะคะ เธอไม่เคยยอมแพ้ให้กับปัญหาต่างๆ ที่เข้ามาในชีวิต กัดฟันสู้ จนในที่สุดเธอก็สามารถเอาชนะโรคซึมเศร้าได้สำเร็จ ทั้งตกผลึกความรู้สึกที่เกิดขึ้นในขณะนั้นออกมาเป็นตัวละครอย่าง “กรณ์” ตัวแทนผู้ถ่ายทอดความรู้สึกของป่วยที่ไม่มีใครเข้าใจอีกด้วย IamLazysheep จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่นักเขียนที่แต่งนิยายได้สนุก ถูกใจใครหลายๆ เท่านั้น แต่เธอยังตัวเป็นตัวแทนที่ทำให้เราได้เห็นถึงความสำเร็จของการไม่ยอมแพ้ เหมือนอย่างที่เธอได้ทิ้งท้ายถึงชาวเด็กดีเอาไว้ว่า “ถ้าคุณท้อและหยุดลง โอกาสจะไม่มีวันอยู่ในมือ” นั่นเองค่ะ อ่านบทสัมภาษณ์จบแล้ว พี่หญิงหวังว่าทุกคนจะมีกำลังใจสู้กันต่อไปนะคะ
สุดท้ายนี้ขอลาไปก่อนเจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค่ะ
พี่หญิง
ขอบคุณภาพประกอบจาก : เพจ Until We Meet Again News
0 ความคิดเห็น