5 เทคนิคลับช่วยตั้งชื่อตัวละครให้สมบูรณ์แบบ นักเขียนมือใหม่ห้ามพลาด!

5 เทคนิคลับช่วยตั้งชื่อตัวละครให้สมบูรณ์แบบ
ที่นักเขียนมือใหม่ห้ามพลาด

ต้องการชื่อที่สมบูรณ์แบบสำหรับตัวละครใช่มั้ย?

ก่อนเปิดพจนานุกรม เสิร์จในอินเตอร์เน็ต หรือใช้เครื่องมือช่วยตั้งชื่อ มี 2 สิ่งที่ควรพิจารณาคือ ชื่อตัวละครควรติดอยู่ในหัวของเรา และมันควรบ่งบอกถึงอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวะคร เช่น ฮาน โซโลเป็นคนเถื่อน เชร็คเป็นคนหยาบแม้กับพวกเดียวกัน หรือซินเดอเรลล่าเป็นเจ้าหญิงที่พัวพันกับความทุกข์ยาก

เคล็ดลับคือการหาจุดสมดุล ชื่อที่ดีต้องน่าเชื่อถือ 

แต่ก็ควรจับใจความสำคัญของตัวละครของเราด้วย

ในวันนี้พี่นำ 5 เทคนิคลับดีๆ ในการตั้งชื่อที่เพอร์เฟคต์ที่สุดสำหรับตัวละครมาฝากทุกคนค่ะ เตรียมกระดาษ ปากกาให้พร้อมแล้วมาตักตวงเทคนิคดีๆ กัน

01 ยืมชื่อจากชีวิตจริงมาใช้

นี่คือวิธีที่เร็วที่สุดในการตั้งชื่อตัวละครและทำให้ตัวละครของเราดูเรียล ใช้ชื่อที่พบเห็นในชีวิตจริง หรืออาจลองใช้เครื่องมือการตั้งชื่อก็ได้ เราอาจเริ่มต้นจาก

แต่ถ้าเรารีบและต้องการชื่อที่ฟังดูออริจินัล ลองเครื่องมือสร้างชื่อด้านล่างนี้

แต่ถ้าใช้เครื่องมือในการสร้างชื่อ เราจะไม่มีทางเรียนรู้วิธีสร้างชื่อที่เป็นออริจินัล น่าสนใจและไม่ซ้ำใคร เราจะไม่่รู้วิธีการตั้งชื่อที่เหมาะสมกับตัวละครและโลกของเรา ดังนั้นเพื่อให้ได้ชื่อที่ดีที่สุด อย่าลืมทำตามอีก 4 เทคนิคด้านล่าง

02 หยิบมา 2 ชื่อ แล้วเบลนเข้าด้วยกัน

นี่คือเรื่องจริง ในปี 2002 เซเลบริตี้แห่งฮอลลิวู้ดสองคนได้คบหากัน เพื่อลดจำนวนพยางค์ที่มากเกินไป ชื่อของเบน แอฟเฟล็ก และเจนนิเฟอร์ โลเปซ จึงถูกย่อให้สั้นลงเป็น "เบนนิเฟอร์ (Bennifer)" และเราก็จะใช้ทริคนี้ในการเบลนสองชื่อให้กลายเป็นชื่อที่เพอร์เฟคต์

หรือจะลองใช้ชื่อจากสองวัฒนธรรมที่แตกต่างดูก็ได้ ช่วยให้เราสามารถสร้างสไตล์ชื่อของเราเองได้ไม่แพ้กัน อาจจะใช้คำนำหน้าภาษากรีกและคำต่อท้ายภาษาญี่ปุ่น เช่น

การผสมชื่อเหมาะสำหรับนิยายแนวแฟนตาซี แต่เราก็สามารถทำให้มันฟังดูสมจริงได้ด้วยเช่นกัน ต้องค่อยๆ ปรับแต่งไป 

อีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจคือ ลองปรับแต่งชื่อที่มีอยู่แล้ว เมื่อจอร์จ อาร์. อาร์. มาร์ติน เริ่มเขียนซีรีส์แนวแฟนตาซียุคกลาง เขาต้องการชื่อที่ใช้ในยุคกลางแต่มีความแปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ และฟังดูคุ้นเคย เขาจึงหยิบชื่อที่มีอยู่แล้วในยุคกลางมาปรับใช้เช่น

ใช้กลยุทธ์นี้เพื่อการตั้งชื่อที่ไม่ซ้ำใครได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องสร้างชื่ออักขระมากกว่า 100 ตัว

03 ใช้เสียงและภาพเพื่อสร้างชื่อที่แฝง “บุคลิกภาพ”

นักเขียนบางคนตั้งชื่อตัวละครผ่านบุคลิกภาพของตัวละคร สิ่งนี้ช่วยให้เรารู้จักตัวละครมากขึ้นทุกครั้งที่เราได้พบกับพวกเขา

• วูล์ฟเวอรีน
• ลุค สกายวอล์คเกอร์
• เอเบเนเซอร์ สครูจ

ลุค สกายวอล์คเกอร์ เป็นนักฝันที่เปี่ยมไปด้วยความหวังพร้อมดวงตาที่มุ่งมั่น วูล์ฟเวอรีนปิดกั้นหัวใจและตั้งรับอย่างโหดเหี้ยม แม้แต่ชื่อ “สครูจ” ก็ทำให้นักอ่านเกิดความรู้สึกบีบคั้นและสัมผัสถึงความเห็นแก่ตัวของเขา

คิดถึงลักษณะทางกายภาพ หรือลักษณะบุคลิกภาพของตัวละคร ชื่อหลายชื่อในจักรวาลแฮร์รี่ พอตเตอร์ใช้บุคลิกของตัวละครเป็นพื้นฐานในการตั้งชื่อ ตัวอย่างเช่น โวลเดอมอร์หมายถึง "เที่ยวบินแห่งความตาย" ในภาษาฝรั่งเศส

คำถามง่ายๆ 3 ข้อด้านล่างนี้จะช่วยเราให้ตั้งชื่อตามบุคลิกภาพได้

04 เลือกชื่อที่เหมาะกับสไตล์การสร้างโลกของเรา

นี่เป็นอีกวิธีที่น่าลองทำ โลกแห่งสมมติทุกแห่งตั้งอยู่บนความต่อเนื่องของความเป็นจริงและจินตนาการ นิยายบางเรื่องแม้จะเป็นไซไฟหรือแฟนตาซี แต่ชื่อตัวละครไม่ได้แฟนตาซีตามไปด้วย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับนักเขียนว่ามีธีมเรื่องประมาณไหน ลองเปรียบเทียบจาก The Expanse และสตาร์วอร์

The Expanse มีความสมจริงและใช้รูปแบบการตั้งชื่อตัวละครสมัยใหม่ เช่น อามอส เบอร์ตัน หรือ คริสเจน อวาซาราลา (ชื่อภาษามลายู) ในขณะที่สตาร์วอร์เน้นความแปลกประหลาดของเอเลี่ยนและสัตว์ประหลาด เช่น ชิวแบคคา, อนาคิน สกายวอล์คเกอร์, ซเลเชียส บี. ครัมบ์ (ก็อบลินตัวน้อยที่นั่งอยู่บนไหล่ของแจ็บบ้า)

ตัวเลือกที่เราเลือกขณะกำลังสร้างโลกจะส่งผลต่อชื่อของตัวละครเรา!

เราไม่มีทางเห็นชื่อทำนองที่ว่า “โรเบิร์ต สมิธ” ในสตาร์วอร์ เช่นเดียวกับการที่เราไม่มีทางเห็นชื่อ “เซบูลาเดอะดัก” ในนิยายโรแมนติกของเจน ออสติน

ลองดูตัวอย่างจากนิยายแฟนตาซีเรื่อง The First Law ของโจ อเบอร์ครอมบี

• โลแกน ไนน์ฟิงเกอร์
• คอล ชิลเวอร์ และฮาร์ดิง กริม
• คนแปลกหน้าผู้มาพร้อมกับเสียงเคาะ

ตัวละครเหล่านี้อาศัยอยู่ในโลกที่โหดร้ายและไม่น่าให้อภัย แต่แต่ละชื่อจะเพิ่มจังหวะชีวิตเมื่ออยู่ในโลก เราต้องสงสัยว่า...

เรื่องราวเบื้องหลังชื่อเหล่านั้นคืออะไร?

04-1 ชื่อนี้มาจากไหนในโลกของเรา?

มีหนังสือดาร์กแฟนตาซีที่น่าสนใจชื่อ Middlegame เรื่องราวของฝาแฝดที่เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษ แฝดคนหนึ่งเป็นอัจฉริยะทางคณิตศาสตร์ ในขณะที่อีกคนมีพรสวรรค์ด้านคำพูด ในโลกนี้ชื่อของฝาแฝดจะคล้องจองกันเสมอ เช่น ดาเรนและคาเรน หรือ โรเจอร์และด็อดเจอร์

ตอนแรกมันอาจฟังดูแปลกๆ หรือพิลึกไปหน่อย เราคิดว่า “คงไม่มีใครตั้งชื่อลูกๆ แบบนั้นหรอก นั่นโหดร้ายกับพวกเด็กๆ นะ” จากนั้นเราพบว่าพ่อแม่ไม่ได้เป็นคนตั้งชื่อให้ ฝาแฝดคู่นี้เกิดจากการทดลองในห้องปฏิบัติการที่สร้างขึ้นโดยบริษัทที่ต้องการวิธีง่ายๆ ในการจำว่าใครเกี่ยวข้องกับใคร มันจำง่ายกว่ามากถ้าชื่อของฝาแฝดคล้องจองกัน

04-2 ชื่อต้องสอดคล้องกับกฎของโลก

เมื่อเป็นนิยายแฟนตาซีหรือไซไฟ เวทมนตร์มักเกิดขึ้น ในฐานะที่เป็นนักภาษาศาสตร์ เจ.อาร์.อาร์. โทลคีน ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตในการสร้างจักรวาลของเขา แม้แต่ชื่อในโลกนิยายของเขายังต้องทำตามกฎเหล่านี้

โทลคีนมีกฎการตั้งชื่ออื่นๆ อย่างแน่นอน กฎทำให้โลกมีความรู้สึกสมจริง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในจักรวาลแฟนตาซี

05 เก็บรายชื่อดีๆ ไว้ในลิสต์

โน้ตในมือถือของพี่มีรายชื่อยาวกว่าร้อยชื่อ เมื่อไหร่ที่เจอชื่อที่ชอบ เมื่อไหร่ที่ชื่อดีๆ แว็บเข้ามาในหัว เมื่อไหร่ที่ได้พูดคุยกับคนที่มีชื่อหลากหลาย เมื่อไหร่ที่ได้ลองนั่งหาชื่อเล่นๆ เมื่อไหร่ที่ออกไปเที่ยวในสถานที่แปลกๆ พี่จะได้ชื่อใหม่ๆ มาเก็บไว้ จดลงไปในลิสต์รายชื่อนั่นแหละ อยากได้มาเขียนเมื่อไหร่ก็หยิบมาใช้ 

......................

ความจริงก็คือ ไม่มีชื่อที่สมบูรณ์แบบสำหรับตัวละครของใคร...ชื่อมีเป็นร้อย แถมคำว่าสมบูรณ์แบบของแต่ละคนยังไม่เหมือนกัน เพอร์เฟคต์สำหรับเรา แต่อาจไม่เพอร์เฟคต์สำหรับอีกคน พลังของชื่อมาจากตัวเราและทางเลือกที่เราเลือกให้กับตัวละครตัวนี้

เราสามารถหาความหมายในชื่อนี้ได้หรือไม่? 
มันทำให้ตัวละครนี้มีชีวิตขึ้นมาได้ง่ายขึ้นมั้ย?

ถ้าคำตอบคือ “ใช่” ให้หยุดค้นหาชื่อใหม่ๆ ซะ เราพบชื่อที่ถูกต้องและนั่นดีที่สุดแล้ว แม้ตัวละครหลักของเราอาจไม่มีชื่อที่สุดแสนสมบูรณ์แบบ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ดี เพราะฮีโร่ควรจะไม่สมบูรณ์แบบ เช่นเดียวกับคนเรา แนวคิดเรื่อง “สมบูรณ์แบบ” นั้นเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อ เลือกชื่อ ลองใช้และยึดติดกับมัน ใช้บ่อยๆ จนให้ตัวละครเติบโตขึ้นกับเรา นั่นคือความลับ

พี่น้ำผึ้ง :)