รีวิวนิยายแนะนำประจำสัปดาห์ บ้านท่านเลี้ยงม้า บ้านข้าปลูกผัก : เมื่อหนุ่มเมืองเหนือต้องมาเกิดเป็น “เกอ” ผู้ชายท้องได้ในยุคจีนโบราณ!

รีวิวนิยายแนะนำประจำสัปดาห์ บ้านท่านเลี้ยงม้า บ้านข้าปลูกผัก 

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน สำหรับนิยายในวันนี้แนะนำสำหรับคนชอบนิยายวายจีนโบราณสายสุขนิยม อ่านสบายๆ ไม่เครียดเลย “ฟ้าฝน” นายเอกจากนิยายเรื่องบ้านท่านเลี้ยงม้า บ้านข้าปลูกผัก ใช้ชีวิตได้สโลว์ไลฟ์มาก วันๆ น้องใช้ชีวิตวนเวียนอยู่กับการปลูกผัก เลี้ยงน้อง ทำกับข้าว และเดินทางออกตามหาวัตถุดิบต่างๆ จากลำธารและชายป่ามาทำอาหาร ทั้งแต่ละอย่างยังน่ากินจนอ่านแล้วสารภาพเลยว่าหิวตาม แถมยังมีเมนูแปลกๆ ประจำภาคเหนือออกมาให้ได้ติดตามอีกด้วย บางเมนูบอกเลยว่าเพิ่งเคยได้ยินครั้งแรกจากนิยายเรื่องเหมือนกัน สร้างความอยากรู้อยากเห็นให้จนต้องไปเปิดกูเกิ่ลค้นหาเลยค่ะ ว่าหน้าตาจริงๆ ของอาหารที่ว่านี้เป็นยังไง ฮา

 และด้วยความน่าสนใจที่ไม่ธรรมดา บวกกับตัวละครที่มีเอกลักษณ์ วันนี้พี่หญิงเลยมาแนะนำนิยายเรื่องนี้ให้ทุกคนได้รู้จักกัน บ้านท่านเลี้ยงม้า บ้านข้าปลูกผัก จะเป็นนิยายที่มีเนื้อหาแบบไหน น่าติดตามอย่างไร มาค่ะ ไปดูกันได้เลย

 

[yaoi]บ้านท่านเลี้ยงม้า บ้านข้าปลูกผัก

โดย Raminchaa

หมวด : นิยายวาย 

คำโปรย

เมื่อฟ้าฝนทะลุมิติมาในโลกใหม่ โลกใบใหม่ที่แสนอุดมสมบูรณ์ งานนี้เขาจะทำอะไรกินดีนะ แต่เอ๊ะ..ทำไมครอบครัวเขาจนแบบ นี้ล่ะ!

 

เกิดใหม่เป็น “เกอ” ในครอบครัวยากจน

เรื่องนี้เป็นนิยายวายแนวเกิดใหม่ที่นายเอกตายจากโลกปัจจุบัน แล้วฟื้นขึ้นมาในร่างเด็กชายวัยหกปีที่กำลังป่วยหนักใกล้ตาย ลูกชายคนรองของครอบครัวชาวนาธรรมดา และที่น่าตกใจไปมากกว่านั้น ร่างใหม่ที่ว่านี้ดันเป็น "เกอ" ผู้ชายที่มีลักษณะพิเศษสามารถตั้งครรภ์ได้ไม่ต่างจากผู้หญิง! 

"ฟ้าฝน" ที่อยู่ๆ ก็ต้องมารู้ตัวว่าตนได้เกิดใหม่ในโลกคล้ายยุคจีนโบราณแถมจนก็ว่าทำใจลำบากแล้ว พอมาค้นพบความจริงว่า "ฟางเซียน" ร่างใหม่ดันเป็นเกอก็ยิ่งทำใจยอมรับความจริงได้ยากเข้าไปใหญ่ ดีนะที่เขาเป็นคนไม่คิดมาก และปรับตัวได้เร็ว เขาจึงรักษาความลับเรื่องการตายแล้วมาเกิดใหม่เอาไว้ได้สำเร็จ! 

 

ความจริงเบื้องหลังการเกิดใหม่ คือความผิดพลาดของเทพดวงซะตา

วันหนึ่งถ้าอยู่ๆ ก็ต้องตื่นมาเป็นคนอื่น ใช้ชีวิตอยู่ในร่างคนอื่น ไม่ว่าใครก็ต้องมีกังวลกันบ้างใช่ไหมล่ะคะว่าวันหนึ่งวิญญาณเจ้าของร่างเดิมจะกลับมาทวงทุกอย่างกลับคืนไปไหม หรือถ้าเราใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ จะมีเป็นความเป็นไปได้ไหมที่เราจะฟื้นขึ้นมาในโลกยุคปัจจุบัน ซึ่งประเด็นเหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ “ฟ้าฝน” นายเอกของเรื่องนี้กังวลมากเช่นกันค่ะ แต่โชคดีที่เขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้นาน เพราะหลังจากที่ปรับตัวใช้ชีวิตในโลกใบใหม่ได้สำเร็จ ความจริงของเรื่องราวทุกอย่างก็ได้มารอเฉลยอยู่ตรงหน้า 

“ฟ้าฝน” ค้นพบว่าความจริงแล้ว “ฟางเซียน” กับตนก็คือคนๆ เดียวกัน หากไม่ใช่เพราะความผิดพลาดของเซียนน้อย ผู้ช่วยของเทพดวงซะตาที่ทำลูกแก้ววิญญาณของเขาหล่นไปเกิดใหม่ผิดมิติ เรื่องวุ่นวายทุกอย่างก็จะไม่เกิด และตนควรจะต้องมาเกิดเป็น ฟางเซียน ตั้งแรก ไม่ไช่ฟื้นขึ้นมาในร่างนี้ตอนอายุหกขวบเหมือนอย่างปัจจุบัน

เมื่อได้รู้ความจริงแบบนี้แล้ว แน่นอนว่า ฟางเซียน ไม่ยอมเสียเปรียบอยู่ฝ่ายเดียว เขาคิดว่าไหนๆ ตัวเองก็ต้องไปเผชิญหน้ากับความยากลำบากมานานถึงสิบปี คราวนี้ต้องขอของชดเชยกันสักนิด ในที่สุดแล้วเขาจึงได้ของวิเศษติดตัวจากเซียนน้อยมาสองอย่าง ได้แก่ ถุงจักรวาลที่สามารถใส่เก็บทุกอย่างได้ ไม่จำกัด และแหวนวิเศษที่สวมแล้วสามารถทำให้หายตัวได้ มาเป็นอาวุธลับเอาตัวรอดในสถานการณ์ฉุกเฉิน!

 

ไม่ใช่นิยายสายธุรกิจ หาเงินร่ำรวยฟู่ฟ่า แต่ค่อยๆ เก็บหอมรอมริบ

อย่างที่บอก “ฟางเซียน” มาเกิดใหม่ในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาแสนยากจน ยังชีพด้วยการทำนา ทำไร่ ปลูกผักขาย แต่เพราะเงินส่วนใหญ่ที่ครอบครัวได้รับต้องเอาไปรักษาอาการป่วยของ ฟางเซียน คนเก่าเงินเก็บของครอบครัวจึงไม่มีเหลือ คนทั้งบ้านจึงต้องใช้ชีวิตกันอย่างประหยัด นานๆ ทีจะได้กินเนื้อสัตว์สักครั้ง! 

เมื่อ ฟางเซียนได้มาเกิดใหม่เป้าหมายแรกที่เขาอยากทำจึงเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตพัฒนาครอบครัวให้ดีขึ้น แต่เพราะเขายังคงเด็กเกินไป มีอายุแค่หกปีเท่านั้น แถมยังมีร่างกายอ่อนแอ ป่วยง่าย สิ่งที่เขาทำได้จึงยังมีไม่มาก ฟางเซียนเลยเริ่มต้นจากสิ่งง่ายๆ อย่างการช่วยงานบ้านครอบครัวก่อน เข้าครัวช่วยมารดาทำอาหาร นำความรู้จากยุคปัจจุบันมาปรับใช้ทำให้อาหารการกินมีความหลากหลายมากขึ้น จนสร้างความสุขเล็กๆ ให้กับคนในครอบครัวที่ได้กินอาหารอร่อยๆ จากฟางเซียนทุกๆ วัน

 นอกจากการช่วยเหลืองานบ้านแล้ว ฟางเซียน ก็ยังพยายามหาเงินเข้าบ้านด้วยวิธีอื่นๆ เช่นกัน โดยเริ่มจากสิ่งเล็กๆ อย่างการปักผ้าฝากขาย แล้วก็ค่อยๆ ขยายส่งสิ่งต่างๆ ส่งขายเพิ่มเติมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่เน้นร่ำรวยรวดเร็ว แต่เน้นเก็บเล็กผสมน้อย พัฒนาอย่างช้าๆ ใช้ชีวิตมีความสุขไปกับวิถีชาวบ้านพร้อมกับมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเรื่อยๆ

 ดังนั้นนิยายเรื่องนี้จึงไม่ใช่นิยายสายธุรกิจเต็มขั้น ใครที่ชอบอ่านเนื้อหาเกี่ยวกับการเปิดกิจการ การชิงไหวชิงพริบ การค้าธุรกิจ ให้ทำใจไว้ก่อนเลยว่ามีเนื้อหาส่วนนี้น้อยมากๆ แต่ถ้าชอบแนวใช้ชีวิตสไลว์ไลฟ์ เน้นความสัมพันธ์ภายในครอบครัวก็ขอแนะนำเลยค่ะ

บ้านท่านเลี้ยงม้า บ้านข้าปลูกผัก เป็นนิยายที่อ่านแล้วให้ความรู้สึกเรื่อยๆ สบายๆ นะคะ เนื้อหาไม่เครียดเลยสักนิด ปมดราม่ามีน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นปัญหาแนวญาติพี่น้อง บ้านใหญ่เอาเปรียบบ้านสามที่เป็นครอบครัวของนายเอก แต่อ่านแล้วก็ไม่เคร่งเครียดเท่าไหร่ เพราะครอบครัวนายเอกไม่ได้อ่อนแอจนใครจะมารังแกก็ได้ ถือเป็นครอบครัวที่แข็งแกร่งและสู้คนสุดๆ ไปเลยค่ะ เวลาโดนคนนอกมาหาเรื่องทั้งครอบครัวก็จะจับมือกันพร้อมใจกันสู้กลับสุดๆ ตีโต้จนฝ่ายที่มาหาเรื่องแพ้พ่ายไป

จุดเด่นอีกอย่างนอกจากความสัมพันธ์ในครอบครัวที่อบอุ่นสุดๆ แล้ว ก็คือฝีมือการทำอาหารของ “ฟางเซียน” นายเอกค่ะ แม้จะอายุแค่หกขวบแต่น้องทำอาหารเก่งมากๆ โดยเฉพาะอาหารภาคเหนือที่มีเมนูแปลกๆ ออกมาไม่เว้นแต่ละวัน บางเมนูก็สารภาพเลยว่าเพิ่งมารู้จักครั้งแรกในนิยายเรื่องนี้ อย่างเช่น “ถั่วเน่า” หรือ “ถั่วเน่าแผ่น” ที่ฟางเซียนในถั่วเหลืองมาทำให้เรื่องนี้ พี่หญิงก็เพิ่งเคยได้ยินครั้งแรก จนต้องไปเปิดอินเตอร์เน็ตหาข้อมูลเพิ่มเติมเลยค่ะ ว่าจริงๆ แล้วเมนูนี้มันมีหน้าตาเป็นแบบไหนกันแน่ ฮา ถ้าใครเป็นชาวเหนือ หรือชอบกินอาหารเหนือแนะนำให้คลิกเรื่องนี้เลยค่ะ รับรองอ่านแล้วต้องอินเป็นพิเศษแน่ๆ 

 

อ่านนิยาย

พี่หญิง

  

 

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น