ฟังเพลงก็แต่งนิยายได้! แนะนำเทคนิคปัง ๆ นำเพลงที่ชอบมาเป็นแรงบันดาลใจในการเขียนนิยายของคุณ
ชาวนักเขียนเด็กดีมีใครเป็นเหมือนกันมั้ย เวลาฟังเพลงไม่ว่าจะแนวไหน ก็อินกับเนื้อเพลง และความหมายไปซะทุกเพลงเลย ไม่ว่าจะเป็นเพลงเศร้า ที่ฟังทีไรก็น้ำตาไหล เหมือนโดนหักอก แฟนทิ้ง แต่จริง ๆ แล้วเราก็แค่อกหักทิพย์ หรือจะเป็นเพลงรัก อินเลิฟ ที่พอเปิดวนมาถึงก็ปัดความเศร้าจากการอกหักทิพย์ มายกยิ้มที่มุมปากกับเนื้อหาเพลงที่แสนจะน่ารัก พร้อมกับจินตนาการไปไกลว่าเราเองก็กำลังเป็นเหมือนในเนื้อเพลง
แต่นอกจากการที่เราอินกับเพลงที่เราฟัง พี่มิวม่อนว่ามันยังมีประโยชน์กับนักเขียนอย่างเรา ๆ ด้วยนะ นั่นก็คือการนำเพลงนั้นมาเป็นตัวช่วยในการดำเนินเรื่องราวของคาแรกเตอร์นิยายที่เราได้สร้างขึ้นมา ฟังเพลงแล้วก็ยังเอามาต่อยอดได้อีก ถ้าใครกำลังคิดว่าจะเริ่มยังไงดี จะใช้เพลงไหน ไม่ต้องห่วง วันนี้พี่มิวม่อนมีเทคนิคการเลือกเพลง แถม 5 เพลง 5 แนวที่น่านำมาเขียนนิยายมาฝากทุกคนด้วย !
ถ้าพร้อมที่จะไปหาแนวเพลงที่โดน กับเพลงที่ใช่ มาใช้กับนิยายของเรากันแล้ว ก็ไปกันเล้ยยยย
เลือกเพลงที่มีอยู่ในหัวอย่างไรให้ปัง !
สำหรับนักเขียนสายฟังเพลงทั้งหลาย ตอนนี้น่าจะมีเพลงขึ้นมาในหัวกันเยอะมากเลยใช่มั้ยคะ การที่มีเพลงในหัวเยอะนั้นก็เป็นข้อดีอย่างหนึ่ง เพราะเรามีตัวเลือกเยอะ จะหยิบเพลงไหนมาใช้ก็ได้ไปหมด แต่ถ้าเราต้องเลือกเพียงเพลงเดียวล่ะ จะใช้เกณฑ์อะไรมาคัดเลือกเพลงเหล่านั้นดี?
มานี่เลย ถ้าเลือกตามขั้นตอนเหล่านี้ รับรองได้เพลงที่โดน เพลงที่ใช่แน่นอน
- ให้ดูว่าช่วงนี้เรากำลังสนใจเพลงแบบไหน เช่น เพลงเกาหลี เพลงสากล เพลงไทย หรือประเทศอื่น ๆ
- ดูอารมณ์ของเพลงว่าเป็นอย่างไร เช่น เศร้า อินเลิฟ แอบชอบ อกหัก หรืออื่น ๆ
- เมื่อได้แนวเพลง และอารมณ์ของเพลงมาแล้ว เรามาดูที่ความหมายของเพลงกัน แนะนำสำหรับนักเขียนที่อยากใช้แค่เพลงเดียวเป็นตัวดำเนินเรื่องของนิยาย ให้เลือกเพลงที่เนื้อหาไม่ได้เจาะจงมากเกินไป ให้เลือกความหมายกว้าง ๆ ที่สามารถนำมาต่อยอดได้
ลองจินตนาการตัวละครของเราให้มีชีวิตเหมือนในเพลงดู
หลังจากที่ได้เพลงความหมายโดน ๆ กันมาเรียบร้อยแล้ว เรามาเริ่มวางแผนการเขียนนิยายของเรากันเลยดีกว่า
- เริ่มจากการสร้างพล็อตจากเนื้อหาของเพลง ให้ลองเอาเนื้อเพลงออกมากลาง เริ่มไล่เรียงเหตุการณ์ไปตามเนื้อเพลงนั้น หรือจะดูวิธีการสร้างพล็อตเพิ่มเติมจากบทความ 7 องค์ประกอบ วางพล็อตยังไงให้ใช้ได้จริง ได้เลย
- พอได้เส้นเรื่องหลัก หรือว่าพล็อตกันมาแล้ว เรามาวางคาแรกเตอร์ หรือตัวละครในนิยายของเรากัน ว่าเราอยากให้ตัวละครของเราเป็นอย่างไรในพล็อตที่เราได้วางไว้
- ทีนี้ก็เริ่มลงมือเขียนเรื่องราวที่เราได้วางขึ้นมาได้เล้ยย
ถ้ายังนึกภาพไม่ออก มานี่เลย ชวนมาดูนิยายที่ใช้เพลงดำเนินเรื่องทั้ง 3 แบบ !
สำหรับการใช้เพลงในการดำเนินเรื่อง เราจะใช้เพลงเดียวกับการดำเนินเรื่องทั้งเรื่อง หรือเราอาจจะใช้เพลง 1 เพลง ต่อ 1 ตอน เพื่อแสดงถึงความรู้สึกของตัวละครในตอนนั้น ๆ ก็ได้เหมือนกัน หรืออีกทางนึงจะใช้เพลง เป็นจุดเปลี่ยนในสถานการณ์สำคัญ ๆ ของตัวละคร พี่มิวม่อนก็เลยมีตัวอย่างนิยายเด็กดีที่ใช้เพลงในการดำเนินเรื่องมาให้ทุกได้ดูกัน เผื่อจะช่วยให้มีไอเดียในการใช้เพลงมาแต่งนิยายกันมากขึ้น !
แบบที่ 1 ตั้งชื่อตอนด้วยชื่อเพลง
ในแบบที่ 1 นี้ จะเป็นการนำเพลงมาเป็นทั้งตัวดำเนินเรื่อง และนำมาเป็นชื่อของตอนด้วย เพื่อสื่อให้เห็นถึงสถานการณ์ หรืออารมณ์ของตัวละครในตอนนั้น ๆ
อย่างเรื่องนี้ `A song in love {NCT DREAM} ถึงแม้จะเป็นบทความที่รวมนิยายเรื่องสั้นจบในตอน หรือมีความยาวไม่เกิน 2 ตอน แต่ก็ได้นำความหมายของเพลงต่าง ๆ มาใช้ในการแต่ง
ยกตัวอย่าง ตอน พบกันใหม่ ที่ได้นำเพลง พบกันใหม่ ของ polycat มาใช้เป็นชื่อตอน และเป็นจุดเปลี่ยนของตัวละคร ที่จะต้องจากกันไปไกล เหมือนกับความหมายของเนื้อเพลง
และเรื่อง #พร้อมเป็นเพลงโปรด ก็ได้มีการใช้เพลงเป็นชื่อตอน และเป็นตัวบอกอารมณ์ของตัวละครในแต่ละตอนเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่าง ในตอนแรกได้ใช้เพลง My Jinji ของ Sunset Rollercoaster เป็นชื่อตอน และความหมายของเพลงที่บ่งบอกว่าไม่อยากให้เธอเสียใจกับอะไรอีกแล้ว เหมือนกับตัวละครในเรื่องที่ไม่อยากให้คนที่คุยด้วยเสียใจกับอาการอกหักที่เพิ่งพบเจอมา
แบบที่ 2 เขียนถึงเพลงบางเพลงในนิยายแล้วทำให้คนอ่านอินมากขึ้น
ในแบบที่ 2 จะเป็นการใช้เพลงในนิยาย ที่จะเพิ่มความอิน และเพิ่มอารมณ์ให้กับผู้อ่าน เมื่อเปิดฟังเพลงพร้อมกับอ่านนิยายไปด้วย
ถ้าเป็นนิยายที่ได้มีการใช้เพลงมาประกอบเนื้อหา เพื่อเพิ่มให้ผู้อ่านได้อินมากขึ้น ต้องเรื่อง {os/sf nct's fiction} - music box ° เป็นการรวมเรื่องสั้นที่ในแต่ละตอนก็จะมีชื่อเพลงประกอบเอาไว้ ว่าเรื่องนี้มาจากเพลงอะไร มีธีมของเรื่องเป็นเพลงอะไร
ยกตัวอย่าง ในตอนที่ชื่อว่า 01:27 ที่นักเขียนได้เขียนไว้ว่าเพลงประจำตอนนี้คือเพลง Back 2 u - NCT127 ที่มีความหมายเพลงว่า คน ๆ หนึ่งพยายามที่จะลืมเรื่องราวทั้งหมดที่ได้สร้างความทรงจำขึ้นมาให้ได้ แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะเห็นน้ำตาของอดีตคนรัก หรือเผลอไปรับสายโทรศัพท์ทุกครั้งที่โทรมา ซึ่งถ้าได้อ่านนิยายตอนนี้ พร้อมกับฟังเพลงไปด้วย มั่นใจเลยว่านักอ่านจะต้องเข้าถึงความรู้สึกของตัวละครมากขึ้นแน่ ๆ
แบบที่ 3 เขียนถึงตัวละครที่เล่นดนตรี / ร้องเพลง
ในแบบที่ 3 เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสร้างพล็อตเลยก็ได้นะ คือการวางตัวละครให้เป็นคนที่เล่นดนตรี หรือว่าร้องเพลงในเรื่อง และก็ใช้เพลงที่ตัวละครร้องเนี่ยแหล่ะ มาใช้เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
สำหรับเรื่อง บ๊วยคือที่หนึ่ง อาจจะไม่ได้ใช้เพลงที่มีอยู่จริงในการขับเคลื่อนเรื่องราว แต่ใช้ตัวละครที่เป็นคนที่สามารถเล่นดนตรี และแต่งเพลงได้มาเป็นตัวดำเนินเรื่องราวทั้งหมดให้เกิดขึ้นแทน ซึ่งก็คือเรื่องราวของคชา กับเพื่อนสมัยเรียนอย่าง บ๊วย ผู้ที่แต่งเพลงทิ้งไว้ให้ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปเติบโต และไม่ได้บอกไว้ว่าเพลงนั้นแต่งไว้ให้ใคร
ใครนึกเพลงไม่ออกไม่ต้องห่วง นี่เลยตัวอย่าง 5 เพลง 5 แนว ที่ฟังแล้วน่าเอามาแต่งนิยาย !
ใครที่ยังคิดไม่ออกว่าจะใช้เพลงอะไรดีในการเริ่มแต่งนิยาย ไม่ต้องกังวลไป เพราะว่าวันนี้พี่มิวม่อนได้ทำการนำตัวอย่างเพลงโดน ๆ ทั้ง 5 เพลงมาให้ทุกคนได้เลือกสรรกัน อยากบอกว่า 5 เพลงนี้เป็นเพลงที่อยู่ในเพลย์ลิสต์ของพี่มิวม่อนเองค่ะ ฟังทีไรก็อยากเขียนนิยายสักเรื่องทุกที เลยอดใจไม่ไหวเอามาแบ่งปันให้ทุกคนฟินไปด้วยกัน
แนวเศร้า อยากมูปออนไปข้างหน้า แต่ทำได้แค่มูปเป็นวงกลม
เริ่มที่เพลงแรก บอกเลยว่าใครที่อยากแต่งนิยายที่ตัวเอกไม่ยอมมูปออน หรือมูปออนเป็นวงกลม ต้องเพลงนี้เลย เพราะเนื้่อหาของเพลงได้บอกเอาไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ไม่ว่าจะวิ่งออกไปจากเรื่องราวที่เธอเคยทำมาเท่าไร ก็ไม่พ้นสักที
วิ่งหนีออกไปด้วยความไวสองมัค ของ AYLA's
แนวตกหลุมรักเธอไม่ไหว ในช่วงหน้าร้อนของปี
มาต่อกันที่เพลงนี้เลย เมื่อกี้เราเศร้ากันไปแล้ว มาดูแนวตกหลุมรักเธอกันดีกว่า ที่ตั้งแต่แรกเจอก็ทำเอาหวั่นไหวไปไม่ถูก บอกเลยว่าเพลงนี้เหมาะที่สุดแล้วก็เนื้อเรื่องแนวนี้ ไม่เชื่อลองไปฟัง หน้าร้อน ของ CORNBOI กันได้เลย
แนวกำลังจะหมดหวัง แต่ขอบคุณเธอที่เข้ามาทำให้ชีวิตฉันดีกว่าเดิม
สำหรับเพลงนี้ในตอนแรกอาจจะทำมให้รู้สึกเศร้า และสิ้นหวังกับชีวิต แต่เพราะว่ามีเธอเข้ามาในชีวิต ก็เลยทำให้ความสิ้นหวังนั้นกลับมีหวังขึ้นมาอีกครั้ง ใครอยากแต่งนิยายแนวที่ให้ตัวละครมาเป็นจุดพลิกของชีวิตใครสักคน เพลงนี้เหมาะมาก ๆ
เรืออวกาศ ของ Tah and friends
แนวไม่ว่าเธอจะให้ฉันรอนานแค่ไหน ฉันก็จะรอ ตามใจเธอเลย
สายตื๊อ สายตามใจ ต้องมาเพลงนี้เลย เพราะเนื้อเพลงของเขาเนี่ย มาเป็นแนวพระเอกลูกหมาเลย ไม่ว่าเธอจะบอกอะไรฉันก็ยอมไปหมด แถมยังเป็นคนคิดมากอีกด้วย กลัวว่าทำอะไรไปแล้วเธอจะไม่ชอบ ใครอยากแต่งแนวนี้ ลองฟังเพลงนี้เลย เผื่อได้ไอเดียดี ๆ นะ
แนวเขาหมดรัก แต่เราไม่หมดความพยายาม
กลับมาที่แนวหม่น ๆ เศร้า ๆ กันบ้าง สำหรับเพลงนี้ใช้กับประโยคที่บอกว่า ความพยายามไม่เคยทำร้ายใคร ไม่ได้เลยจริง ๆ เพราะยิ่งพยายามเท่าไร เธอก็เหมือนจะยิ่งห่างออกไปเท่านั้น เหมือนกับคน ๆ นึงที่พยายามจะรักษาความสัมพันธ์เอาไว้ แต่อีกคนก็พยายามจะทิ้งความสัมพันธ์นี้ไป
คนคนนึง ของ The White Hair Cut
เป็นยังไงกันบ้างกับเทคนิคที่พี่มิวม่อนได้มาแนะนำให้ทุกคนได้ลองใช้กัน คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์สำหรับนักเขียนสายฟังเพลงหลาย ๆ คนเลยล่ะ พอได้ไอเดียไปเขียนนิยายกันบ้างมั้ยคะ จริง ๆ แล้วอาจจะมีอีกหลายเพลงที่เข้ากันกับแต่ละแนวที่ยกมาในวันนี้นะ ลองไปหาเพลงฟังเพิ่มเติมกันได้ หรือจะให้แอปฟังเพลงสุ่มเพลงให้ก็ได้ถ้าเลือกไม่ถูก อิ–อิ
สุดท้ายแล้วก็อยากจะบอกนักเขียนทุกคนว่าในการแต่งนิยาย ไม่ได้จำเป็นจะต้องแต่งจากจินตนาการที่เราคิดมาใหม่เพียงอย่างเดียว แต่ถ้าเรากำลังอินอะไรอยู่ ณ ช่วงเวลานี้ก็ยังสามารถหยิบมาสร้างสรรค์งานเขียนดี ๆ ได้เหมือนกัน อย่างเช่นการฟังเพลง ที่ในวันนี้ได้หยิบมาแนะนำเพื่อน ๆ กัน นอกจากเราจะได้ฟังเพลงดี ๆ จากศิลปินที่เราชอบแล้ว เพลงเหล่านี้แหล่ะ ที่จะมาเป็นแรงบันดาลใจให้กับเราต่อ :-)
พี่มิวม่อน
2 ความคิดเห็น
หนูนี่แหละค่ะคนหนึ่ง ที่แต่งนิยายเพราะฟังเพลงอย่างเดียว 55555
(แต่ไม่บอกนะว่า แบบไหนและวงอะไร)
เราก็มีค่ะ ... เรื่อง Love decision #จะเอาคนนี้
ตอนแรกพล๊อตหมด พอดีไปฟังเพลง เพลงนี้ขึ้นมา...เลยได้พล๊อตเลย 5555
คนอ่านชอบมากเลยค่ะ