Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

แซ่บกว่าซีรีส์ก็ต้องคนเขียนนี่แหละ! “ใบสน” พาเม้าส์เบื้องหลัง “วงกตดอกไม้” สู่ซีรีส์ “ด้วยรักและหักหลัง P.S. I HATE YOU” ที่สนุกแบบตะโก๊นนน !

“ใบสน” นักเขียนนิยายและนักเขียนบทละคร ผู้อยู่เบื้องหลังซีรีส์ “ด้วยรักและหักหลัง P.S. I HATE YOU” เดินทางมาเยี่ยมเยียนทีมงานถึงออฟฟิศ Dek-D เธอสวมเสื้อกันหนาวไหมพรมถักตัวโต รองเท้าเปิดส้นสีครีม สะพายกระเป๋าใบเล็กที่มีกระเป๋าเครื่องสำอางอีกใบอยู่ภายใน ผมยาวเคลียบ่า สีน้ำตาลเข้ม 

การพบปะพูดคุยกันในครั้งนี้ไม่ได้เป็นทางการมาก ใบสนแวะมาพูดคุยด้วยความคิดถึง เธอขอนั่งแต่งหน้าและคุยกันไปด้วย เพราะเธอมีธุระสำคัญต้องไปต่อ เราเลยได้มีโอกาสชวนเธอคุยระหว่างที่เธอกำลังแต่งหน้าถึงซีรีส์ที่กำลังมาแรงที่สุดในตอนนี้อย่าง “ด้วยรักและหักหลัง P.S. I HATE YOU” ที่ดัดแปลงมาจากนิยายจากปลายปากกาของใบสนเรื่อง “วงกตดอกไม้” 

สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก “ใบสน” เราขอแนะนำเธอแบบเร็วๆ ว่า เธอเป็นนักเขียนในตำนานของ Dek-D คนหนึ่ง ที่มีเอกลักษณ์ในงานเขียนชัดเจนมาก คาแรคเตอร์ตัวละครของเธอร้าย และแซ่บถึงพริกถึงขิงทุกคน งานเขียนของเธออย่าง “ร้ายสุดขั้ว กะ ชั่วสุดขีด” ก็ยังเป็นนิยายที่ถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ และ “วงกตดอกไม้” ก็ถือเป็นนิยายเรื่องล่าสุดที่กลายเป็นซีรีส์สุดร้อนแรงของปี 2022 

ใบสนเคยเล่าให้เราฟังว่า “วงกตดอกไม้” เป็นเรื่องราวของ กลุ่มเพื่อนรัก แต่จริงๆ แอบร้าย ส่วนที่เป็นดอกไม้ เพราะแก๊งนี้ชื่อ แก๊งดอกไม้ สาวๆ แต่ละคนจะสื่อถึงดอกไม้ในรูปแบบของตัวเอง ใบสนเชื่อว่า ผู้หญิงทุกคนคือดอกไม้ มีความสวย เสน่ห์ และภาษาของดอกไม้ในแบบของตัวเอง และส่วนที่เป็นวงกต ก็เพื่อจะสื่อถึงความวนเวียน วกวนของชีวิตตัวละครทั้งห้าสาว ที่หลงวนเวียนกันอยู่ในวงกตแห่งนี้ หาทางออกไปไม่ได้เสียที แต่หลงอะไร และทำไมถึงหลง ต้องไปลองติดตามกันดู (ย้อนอ่าน เบื้องหลังวงกตดอกไม้

นิยายเรื่อง วงกตดอกไม้
นิยายเรื่อง วงกตดอกไม้

เรื่องแรกที่เราชวนใบสนคุยเป็นการเปิดบทสนทนา เราถามว่า ทำไมตัวละครของเธอต้องร้ายด้วย ใบสนที่กำลังเริ่มต้นแต่งหน้า ตอบคำถามกลับมาอย่างง่ายๆ สบายๆ ตามสไตล์ของเธอ

“จริงๆ เราเป็นคนที่เวลาอ่านนิยายจะไม่ชอบอ่านนิยายที่ พระเอกดี๊ดี นางเอกแสนดี เราไม่ชอบอยู่แล้ว เพราะรู้สึกว่ามันไม่ใช่ความจริง คนเราจะมีความดีร้อยเปอร์เซ็นต์มันเป็นไปไม่ได้ แล้วก็โลกนี้มันไม่มีความยุติธรรมอยู่แล้ว มันเป็นสิ่งที่เรารับรู้มาโดยตลอด” 

“เพราะแบบนี้เราเลยมองว่า ถ้าตัวละครหลัก ไม่ว่าจะเป็นนางเอก พระเอก หรือตัวละครนำเรื่อง เขาจะมีทั้งมุมที่คนมองว่าดี แล้วก็มุมที่คนมองว่าไม่ดี มันก็ไม่เห็นแปลกเลย สำหรับเราต่อให้เขาทำสิ่งที่ไม่ดี เราก็ไม่ได้มองว่าคนนี้เขาเป็นคนที่ไม่ดี หมายถึงตัวละครนะ เพราะว่าเราก็รู้สึกว่าเขาก็มีเหตุผลของเขาในการกระทำ เราเลยจับเอาแง่มุมเหล่านี้มาใส่ในนิยายของเรา”

ใบสนเล่าไปด้วยแต่งหน้าไปด้วยว่า เมื่อยี่สิบปีก่อนก็เคยโดนด่าเพราะเขียนคาแรคเตอร์ตัวละครที่ดูร้ายๆ แรงๆ เกินยุคสมัยนั้นไปบ้าง แต่ทุกอย่างก็จบลงเพียงเพราะคำว่านิยายวัยรุ่น คนมองว่าเป็นเรื่องปกติของช่วงวัยนั้นมากกว่า อย่างในนิยายเรื่อง “ร้ายสุดขั้ว กะ ชั่วสุดขีด” การกระทำของตัวละครก็เป็นสิ่งที่ใครหลายคนเคยทำมาแล้ว แต่แค่ไม่เคยมีใครเอาออกมาพูด หรือบอกใครว่าเราเคยทำมาก่อนเท่านั้นเอง 

“คนส่วนใหญ่จะชอบแบ่งว่าตัวละครนี้เป็นนางเอก ตัวละครนี้เป็นพระเอก เป็นคุณธรรม เป็นอธรรม เป็นสิ่งที่ทุกคนชอบไปให้บทบาทกับมัน ซึ่งจริงๆ แล้วสำหรับเรา เรามองว่าตัวละครคือ ตัวละครนำหลัก และตัวละครนำ เราไม่เคยมองว่าเขาเป็นพระเอก หรือนางเอก เรามองว่าเขาเป็นตัวละครตัวหนึ่งที่อาจจะบทเยอะหน่อย บทน้อยหน่อย อาจจะมีเส้นเรื่องหลักเป็นเรื่องของเขาเอง ดังนั้นเราไม่ได้มองว่า เขาเป็นตัวละครคุณธรรม เขาทำเลวไม่ได้เลย  หรือเขาเป็นตัวละครอธรรม เขาต้องทำแต่เรื่องเลวๆ เขาห้ามทำความดี ไม่ใช่เลย ”

“นิยายของเราเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ถามว่ายุคแต่ละยุคมันแตกต่างกันไหม ถ้าเป็นคนที่เปิดใจก็อาจจะมองว่ามันก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว สมัยก่อนมันก็มีนิยายที่ตัวละครหลักก็ทำตัวไม่ดีเหมือนกัน เพียงแต่ว่าบางคนเขาอาจจะยังจำกัดมันอยู่ว่า ตัวละครคุณธรรมควรเป็นตัวหลัก เพื่อให้คนดูเอาไปเป็นแบบอย่าง แต่เราไม่ได้คิดแบบนั้นตั้งแต่แรกไง ก็โดนด่าไป โดนด่าอยู่ตลอดว่าตัวละครของเราทำไมทำแต่เรื่องเลวๆ แล้วจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้กับสังคม (หัวเราะ)”

ใบสนเล่าไปขำไป เธอเริ่มเขียนอายไลเนอร์ที่โคนขนตา สายตาของเธอจดจ่อกับการลากเส้นในกระจกมาก พอเห็นมือเธอเริ่มถมอายไลน์เนอร์ เราเลยอาศัยจังหวะถามถึงนิยายเรื่อง “ด้วยรักและหักหลัง P.S. I HATE YOU” ตั้งแต่เรื่องราวทั้งหมดยังเป็น “วงกตดอกไม้”

“เรื่อง วงกตดอกไม้ เราเคยเล่าไปในสัมภาษณ์เด็กดีแล้วครั้งหนึ่ง แต่จะเล่าอีกว่าจริงๆ แล้วเรื่องนี้ เราได้ไอเดียมาจากหลายอย่างมาก ตอนนั้นเราเป็นคนชอบดูซีรีย์ฝรั่งมาก แล้วตัวละครทุกเรื่องของเขา จะมีทั้งดีทั้งร้ายสลับกันไป มีความอิจฉา ริษยา เห็นแก่ตัวกัน ต่อให้เป็นตัวละครหลักหรือเป็นพระเอกนางเอกที่เราเรียกกันก็ตาม” 

“แล้วเราก็ชอบ Game of Thrones มาก จุดเด่นของมันก็คือ ไม่มีใครดีไม่มีใครเลวทุกคน แล้วก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ เราก็เลยคิดว่าเราอยากเขียนแนวที่คนมันคาดเดาไม่ได้เหมือนกัน แล้วตอนนั้นก็ได้ไปดู Maze Runner ที่มันวิ่งกันในวงกตอีก เราก็ชอบคำว่า “วงกต” ก็เลยมานั่งคิดว่าอะไรที่มันจะเอามาเชื่อมกับคำว่าวงกตได้บ้าง”

“ทีนี้เราก็เป็นคนเพื่อนเยอะ เรื่องของเพื่อนเราเนี่ยสนุกมาก เราก็เลยคิดว่าดึงเอาอะไรบางอย่างของเพื่อนแต่ละคนมาดีกว่า ซึ่งทุกวันนี้มันก็เรียกค่าลิขสิทธิ์อยู่นะ (หัวเราะ)  เราก็เอาชื่อเพื่อนมา แล้วก็ขยายเป็นเรื่องราว แต่เพื่อนเราก็ไม่ได้เป็นขนาดในเรื่องนะ เราเอามาขยายทำให้มันแย่ลงแค่นั้นเอง เพราะแต่ละคนก็มีคาแรคเตอร์ที่น่าดึงขึ้นมาใช้แตกต่างกันไป”

ใบสนเล่าต่อว่าตอนที่เธอเขียนนิยายเรื่อง วงกตดอกไม้ เธอแก้งานไปกว่า 10 รอบ ถึงจะเขียนได้หลายตอนแล้ว พออ่านแล้วไม่ใช่ เธอก็ลบทิ้งแล้วเริ่มเขียนใหม่ทันที กว่าจะได้บทนำตามที่เธอต้องการก็ทำเอาเครียดไปเหมือนกัน เธอเล่าว่าตอนนั้นรู้สึกท้าทายมาก เพราะลงให้นักอ่านใน Dek-D อ่าน มีทั้งฟีดแบ็กที่ดีและไม่ดี แต่โดยรวมแล้วก็ทำให้เธอมีกำลังใจในการเขียนมากขึ้น ถือเป็นนิยายที่ใช้เวลานานมาก แต่เธอกลับรู้สึกสนุกสุดๆ 

ซีรีส์ ด้วยรักและหักหลัง P.S. I Hate You
ซีรีส์ ด้วยรักและหักหลัง P.S. I Hate You

และแล้วก็มาถึงคำถามที่เรารอคอย “นิยายเรื่องนี้มาเป็นซีรีส์ได้อย่างไร” ใบสนถึงกับพักจิบน้ำชามะนาวที่เราเตรียมไว้ให้ เธอบอกกับเราว่าไม่ดื่มกาแฟ นับเป็นโชคดีของเราที่มีชามะนาวเจ้าอร่อยจากร้านชาโบมาเป็นตัวช่วยรับแขกในครั้งนี้

“หนทางก่อนจะมาเป็นซีรีส์ก็คือยาวนานมาก มีหลายคนที่มีส่วนช่วยเหลือเราเยอะมาก ทั้งน้องเนส น้องน้ำหวาน ตอนนั้นผู้จัดกำลังหานิยายแนวนี้อยู่ แนวซีรีส์ฝรั่งที่คาดเดาไม่ได้ แล้วน้องที่เรารู้จักเป็นแอดมินเพจรีวิวนิยาย เขาอ่านเรื่องวงกตดอกไม้อยู่ แล้วเขาก็รู้จักกับผู้จัด เลยแนะนำนิยายของเราให้ผู้จัดดู ตอนนั้นผู้จัดก็ใช้ให้ผู้ช่วยตากฝนไปซื้อมาอ่านเลยนะ พออ่านแล้วเขาชอบก็นัดคุยกับเราเลย ตอนนั้นก็มีคนติดต่อเรามาประมาณ 2-3 เจ้านะ แต่เราคุยทางผู้จัดแล้วเขาซื้อเลย เราก็ตกลงเลยค่ะ เพราะคุยกันแล้วมีหลายอย่างที่เราโอเค”

ซีรีส์เรื่องนี้ใบสนได้เข้าไปเขียนบทด้วย? 

“ใช่ค่ะ เราก็เขียนบทด้วย มีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นยันจบ เพราะว่ามันเป็นแนวใหม่ที่ยังไม่เคยมีใครทำเลย ตอนแรกทุกคนก็งงๆ ว่าจะออกมาเป็นแบบไหน แต่พออ่านบทวันแรกแล้วทุกคนก็โอเค มันดีนะ มันสนุกเราก็ดีใจที่ทุกคนบอกว่าสนุก และนักแสดงทุกคนก็ทุ่มเทให้เรามากๆ เลย ทุกคนทำการบ้านมาดี เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราเข้ากองถ่ายเยอะที่สุดเท่าที่เคยทำงานมาเลย ไปคุยกับนักแสดงเยอะมาก เพราะนักแสดงทุกคนแต่ละคนทำการบ้านมา บางคนก็ออกแบบการเล่นคนละแบบ ดีใจมากๆ ที่ทุกคนทุ่มเทกันขนาดนี้”

พอเธอเล่าจบ พริบตา ดวงตาของเธอก็กลมโตสวย เราคิดว่าบุคลิกของเธอคล้ายมีนา หรือมีนมากที่สุด และเธอก็พยักหน้าเห็นด้วย "ใช่ ตัวละครมีนเหมือนเรามากที่สุด" เธอบอกว่าทุกตัวละครจะมีตัวเธออยู่ในนั้น แต่ละตัวละครก็จะรับพาร์ตแต่ละชิ้นของใบสนไปประกอบเป็นตัวละครนั้นๆ แต่มีนาเป็นตัวละครที่รับพาร์ตของใบสนเยอะที่สุด ในเรื่องของความมีเหตุผล การเป็นคนขี้เกรงใจ และแคร์คนอื่น ซึ่งใบสนเล่าถึงนักแสดงในเรื่องว่าเป็นแคสที่แข็งแรงมาก 

“จริงๆ ทุกตัวละคร พอเราเอามาทำในส่วนของบทโทรทัศน์ มันก็จะต้องมีการปรับบทอยู่แล้ว พอเราเห็นแคสแต่ละคนแล้วมันแบบ เฮ้ย มันใช่ ใช่ทุกคนเลย ก็เลยมีการทำการบ้านกันระหว่างทีมงานกับนักแสดงค่อนข้างเยอะ”

“อย่างตัว แพต ชญานิษฐ์ ที่รับบท ธิดาวัลย์ เรารู้สึกว่าดีมากที่เป็นแพต ในนิยายวันวันจะมีความงอแงนิดนึง แต่แพตเนี่ย คาแรคเตอร์เขาจะมีความเท่ๆ แมนๆ ซึ่งมันดีมากที่เป็นเขา เพราะมันจะถ่ายทอดตัวละครนี้ออกมาได้แข็งแรงมาก ตอนที่เรารู้ว่าเป็นแพตก็มีทำการบ้าน ไปส่องไอจี ไปตามดู จริงๆ ก็ดูของทุกคนเพื่อนำมาปรับใช้กับการทำบท แต่ของแพตเนี่ย เขามีน้องชาย เขาสนิทกับน้องชายมาก วันวันในนิยายก็มีน้องชายและรักน้องชายมาก เราเลยคิดว่าแพตน่าจะดึงเคมีระหว่างพี่น้องออกมาได้ดี และเขาก็ทำออกมาได้ดีจริงๆ”

“แล้วก็มีฉากที่เรารู้สึกดี ต้องพูดถึงอยู่ตลอดเวลาก็คือฉากที่ 4 สาวทะเลาะกัน ในนิยายมันยาวมาก แล้วพอมาทำเป็นซีรีส์มันก็ใช้เวลาประมาณเกือบเบรคเลย ก็คือเยอะมาก เป็นฉากที่ทุกคนทุ่มเท เล่นกันเต็มที่ เป็นฉากที่ทุกคนเหนื่อย แต่เราไม่ได้อยู่ตอนนั้นนะ เรากลับก่อน (หัวเราะ) แต่เรารู้ว่าทุกคนเหนื่อยเพราะว่ามาฟังทีหลัง เป็นฉากที่เครียดมาก อ้าย สรัลชนา ที่รับบทเป็น สรัสวดี ก็ร้องไห้ทั้งซีน ตอนที่พักถ่ายอ้ายก็ยังร้องไห้อยู่เลยเพื่อคีพความรู้สึกไว้ เรารู้สึกว่ามันถ่ายทอดความระเบิดลงของนิยายออกมาได้สูงเลยแหละ แล้วการทำซีรีส์ก็ต้องมีบางฉากจากในนิยายที่ถูกตัดออก แต่ฉากนี้ยังไงก็ต้องมี”

ใบสนเล่าถึงฉากที่เธอประทับใจในซีรีส์ แล้วเล่าต่อว่า "เรื่องนี้ เรามีเล่นประเด็นข่มขืน ซึ่งเป็นสิ่งที่เราเชื่อ โชคดีที่ฟ้า ยงวรี ก็คิดแบบนั้น ไม่ต้องคุยอะไรกับน้องมากเลย น้องเข้าใจทุกอย่าง” ใบสนเริ่มต้นเล่าเบื้องลึกเบื้องหลังสุดเอ็กคลูซีพต่อทันที

“ต้องขอบคุณทุกคนจริงๆ ที่ดูแล้วอิน นิยายเรื่องนี้บางเรื่องมันก็พูดถึงประเด็นที่มันแรงเหลือเกิน พูดถึงประเด็นสังคมที่มันเกิดขึ้นจริง แต่ไม่มีใครกล้าหยิบขึ้นมาพูด  ตอนที่เราทำบทก็เครียดมากนะ เพราะว่ากลัวโดนฟ้อง แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่เราหาข้อมูลเยอะมาก ปรึกษาจิตแพทย์จนจะไปปรึกษาเองแล้ว (หัวเราะ) เราไปปรึกษาจิตแพทย์ทุกอย่างเลย เพราะตัวละครแต่ละคนคือมีภาวะทางจิตอย่างใดอย่างหนึ่งกันทั้งนั้น เราพยายามทำให้มันถูกต้องตามแบบแผนที่สุด แล้วก็มีเรื่องที่เป็นประเด็นอ่อนไหว เช่น การข่มขืน การทำแท้ง เราต้องไปปรึกษาหมอประมาณ 3-4 คน ปรึกษาทนายด้วยเพราะว่ามันมีเรื่องกฎหมายเยอะ แล้วก็ข้อมูลทางวิชาการก็พยายามทำให้มันถูกต้อง”

“เพราะเราตั้งใจให้มันเป็นประโยชน์กับคนดู ให้เขารู้สึกว่าในปัญหาที่พวกเขาเผชิญมันมีทางออกนะ แล้วจริงๆ เราได้แรงบันดาลใจเรื่องนี้มาจากข่าวเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว เป็นข่าวของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกข่มขืนบนรถไฟ น่าจะเป็นเคสก่อนเคสน้องแก้มอีกนะ เป็นผู้หญิงที่ถูกข่มขืนบนรถไฟแล้วเขาไปหาตำรวจ แล้วตำรวจก็หัวเราะว่าบนรถไฟเนี่ยนะ พอเขาไปหาหมอ หมอก็เรียกนักศึกษาแพทย์มาดูว่านี้เป็นเคสศึกษาคนที่ถูกข่มขืนนะ ซึ่งคนที่ถูกข่มขืนมีคนเป็นสิบมาดูเราเป็นเคสศึกษา มันได้เหรอ แล้วเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องที่ฝังใจมาตั้งแต่เด็กว่า ทำไมมันเป็นความผิดเราหรอที่เราโดน ไม่ว่าเราจะทำตัวยังไง ต่อให้เรานอนแก้ผ้าอยู่ในห้อง เราก็ไม่มีสิทธิ์โดน ตอนนั้นเราไม่เข้าใจเรื่องนี้เราก็เลยอยากจะถ่ายทอดตัวละครออกมาให้มันดีที่สุด โชคดีที่ ฟ้า ยงวรี ที่รับบท เมธาชา ก็คิดแบบนั้น ไม่ต้องคุยอะไรกับน้องมากเลย น้องเข้าใจทุกอย่างและถ่ายทอดออกมาได้ดีเช่นกัน”

ใบสนเล่าเรื่องราวที่ติดค้างอยู่ในใจออกมาหมดเปลือก เธอบอกว่ามันเป็นหนึ่งในแพชชั่นที่ทำให้เกิดนิยายและซีรีส์เรื่องนี้ ในตอนนี้เธอแต่งหน้าใกล้เสร็จแล้ว และก็ได้เวลาที่เธอจะต้องลาจากเราไป แต่เรายังนึกเสียดายและสนุกที่ได้คุยกับเธออยู่ เราเลยถามใบสนถึงเรื่องที่เธอเองก็นึกเสียดายในซีรีส์เรื่องนี้เหมือนกัน 

“เรื่องที่เสียดายก็คือถ่ายมาเยอะมาก บทยาวมาก แล้วพอตัดออกเหลือ 45 นาทีทุกคนก็เลยงงว่าทำไมเป็นอย่างนี้ ทีมงานทุกคนเสียดายแต่ว่าเวลาออนแอร์มันน้อย จริงๆ ก็ไม่ได้เวลาน้อยหรอกพวกเราทำเกินเองด้วย (หัวเราะ) เราได้มาได้แค่ 45 นาทีมันเป็นเวลาปกติแล้ว ดังนั้นก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ใครดูแล้วคิดว่าตัวละครนี่โง่จังเลย ไม่มีเซ้นเลย ไม่มีเหตุผลเลย บางทีมันถ่ายมาด้วยแล้วนะ แต่ว่าพอมาตัดมันก็เล่าไม่พอ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ค่ะ”

ใบสนทาลิปสติกปิดท้าย ก่อนจะต้องจากกันจริงๆ เธอขอบคุณทุกคนที่ติดตามทั้งนิยายและซีรีส์ พร้อมฝากผลงานเรื่องใหม่ที่จะมีให้ติดตามในเร็วๆ นี้ไว้ด้วย ซึ่งเราเชื่อผลงานจากฝีมือของใบสน จะต้องน่าติดตามอีกเช่นเคย 

“ตอนนี้มีเรื่องที่กำลังเปิดกล้องกับ GMM เหมือนกัน แล้วก็ได้แคสที่แข็งแรงมาอีกแล้ว ก็ขอบคุณผู้ใหญ่ ขอบคุณทาง GMM ที่ให้โอกาสเราอีกรอบหนึ่ง เป็นเรื่องที่เราเขียนบทเองเหมือนกัน แล้วก็เป็นนิยายด้วย ฝากติดตามด้วยนะคะ ตอนนี้ยังบอกอะไรไม่ได้เลย หลังจากนี้ก็คงต้องหาเวลาเขียนเรื่องใหม่ก่อนมีแต่คนถามเหมือนกันว่าเรื่องใหม่เป็นยังไง ก็รอไปก่อนนะคะ ยังไม่เสร็จ ถ้าเรื่องเก่าๆ ก็ตามเข้าไปดูใน Dek-D ได้ ฝากติดตามผลงานต่อไปด้วยนะคะ”

ซีรีส์ ด้วยรักและหักหลัง P.S. I Hate You ช่อง GMM25 ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. 

พี่แนนนี่เพน

 

พี่แนนนี่เพน
พี่แนนนี่เพน - Columnist สาวเหนือที่มีความสุขกับการเขียนนิยาย และเชื่อว่านิยายให้อะไรดีๆ กับสังคมเสมอ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น

แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture