Dek-D.com ใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสบการณ์ของ
ผู้ใช้ให้ดียิ่งขึ้น เรียนรู้เพิ่มเติมที่นี่
ยอมรับ

สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ! เปิดใจ “นิทราการ” นักเขียนผู้บกพร่องทางสายตาที่ถือคติ หากใจรักก็ไม่ใช่อุปสรรคการเขียน!

สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ!  เปิดใจ “นิทราการ” 
นักเขียนผู้บกพร่องทางสายตาที่ถือคติ หากใจรักก็ไม่ใช่อุปสรรคการเขียน!

สวัสดีค่ะ ชาวเด็กดีทุกคน สำหรับนักเขียนที่เราพามาแนะนำให้รู้จักในวันนี้ เป็นสุดยอดนักเขียนสู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับจริงๆ เพราะ นิทราการ เป็นนักเขียนที่มีความบกพร่องทางสายตา  การเขียนนิยายของเขาจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่แม้จะเจออุปสรรคมากมาย แต่ นิทราการ หรือ แท็ก ก็ไม่เคยมองว่ามันเป็นอุปสรรคในการเขียนเลยสักนิด เขาใช้จินตนาการของตนเอง เล่าเรื่องราวในแบบที่เขาต้องการ จนสามารถสร้างนิยายเรื่อง มนตราสะท้านโลกา ได้แปดสิบกว่าตอน ทั้งยังเปิดขายในระบบเด็กดีอีกด้วย!

วันนี้เราจึงชวน นิทราการ มาแชร์ประสบการณ์การเป็นนักเขียนกันว่า กว่าที่เขาจะมีผลงานออกมาให้ติดตามแบบนี้ เขาต้องผ่านอุปสรรคอะไรมาบ้าง มาติดตามกันในบทสัมภาษณฺ์นี้กันเลย 
 


นิทราการ  คือใคร?

สวัสดีครับ ผมแท็ก ครับ นามปากกานิทราการ ตอนนี้เรียนอยู่ปี 4 เอกภาษาอังกฤษ ตอนนี้กำลังทำหน้าที่ฝึกสอนอยู่ครับผม

จุดเริ่มต้นการเขียน…เดิมทีเป็นคนชอบอ่านนิยายเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครับ รวมถึงดูการ์ตูน ในทีแรกไม่เคยคิดเลย ว่าตัวเองจะมาเป็นนักเขียน เพราะตอนเด็กๆ เคยมีความฝันว่าอยากจะเป็นนักวาดการ์ตูนมากกว่า แต่เพราะความบกพร่องทางร่างกาย เลยไม่สามารถที่จะเป็นนักวาดได้

พอเรารู้ว่าจะเป็นนักวาดการ์ตูนไม่ได้ แล้วจำเป็นที่จะต้องทิ้งความฝันนี้ไป ส่วนตัวก็เคว้งไปพอสมควรเลยครับ แต่เพราะรู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง เขาแนะนำว่า เป็นนักวาดกาตูนไม่ได้ ทำไมไม่ลองเขียนนิยายดู ผมก็เลยลองเอามาคิด จนเริ่มแต่งนิยายเรื่องแรกออกมาครับ คือเรื่อง ‘เกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก’ ซึ่งก็ทำการรีไรต์ไปหลายรอบมาก กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่เสร็จเลยครับ (ฮา)

สำหรับนามปากกา นิทราการ เดิมที ผมคิดจะตั้งนามปากกาว่า “นิทรากาล” ที่แปลได้ประมาณว่า เวลานอนอะไรแบบนั้นครับ เพราะส่วนตัวชอบใช้เวลานอนตอนกลางคืนมาแต่งนิยาย เลยน่าจะเหมาะกับตัวผมที่สุด

แต่พอจะเอามาใช้จริงๆ ปรากฏว่าในเด็กดี มีคนใช้นามปากกานี้ไปแล้ว ครั้นจะให้ทิ้งนามปากกานี้ไปใช้ชื่ออื่น ผมก็รู้สึกเสียดาย ก็เลยคิดว่า ถ้างั้นก็เปลี่ยนจากคำว่า ‘กาล’ ที่หมายถึงเวลา เป็นคำว่า ‘การ’ ที่หมายถึงงาน หรือการทำงานแทน พอเอามารวมกัน ก็คือ “นิทราการ” ก็จะได้ความหมายประมาณว่า ทำงานตอนนอนอะไรแบบนั้น 55+ ซึ่งความหมายก็จะไม่ต่างจากเดิมสักเท่าไหร่

อยากเป็นนักเขียน…ความบกพร่องไม่ใช่อุปสรรค!

ในทีแรก ผมมองว่าเป็นการแต่งเพื่อคลายเคลียดมากกว่าครับ ไม่ได้คิดว่าเป็นความฝันอะไร แต่พอแต่งไปแต่งมาแล้วเกิดหลงรักขึ้นมาจนฉุดไม่อยู่ การเป็นนักเขียน เลยกลายเป็นความฝันเล็กๆ ไปโดยไม่รู้ตัว

อุปสรรคหลักๆ ผมคิดว่าคงเป็นเรื่องการจัดย่อหน้า หรือพวกตัวอักษรครับ เพราะคนตาบอด จะเข้าไม่ค่อยถึงรูปแบบของการจัดหน้าสักเท่าไหร่ เพราะหลายๆ ครั้ง เราก็ไม่รู้ว่าการจัดหน้าของเรามันทำให้คนอ่านอ่านง่ายไหม หรือสวยดูดีไหม อันไหนควรใช้ตัวเอียง อันไหนควรเน้นด้วยตัวหนาอะไรแบบนั้น

อีกปัญหาที่ผมเป็น (แต่ไม่รู้ว่าคนตาบอดคนอื่นๆ เป็นเหมือนผมไหม หรือผมจะเป็นคนเดียวไม่รู้) คือพวกเรื่องการสะกดคำ เพราะคนตาบอดเรา จะอ่านนิยายโดยใช้โปรแกรมอ่านหน้าจอ (Screen Reader) ซึ่งจะทำหน้าที่ตรวจจับตัวอักษรบนหน้าจอ ในบริเวรที่เคอร์เซอร์ชี้อยู่ ให้ออกมาเป็นเสียงคำพูด ดังนั้นเราเลยไม่รู้ว่า บางคำที่เราไม่รู้จักหรือคุ้นเคยสะกดยังไง อันที่จริงตัวโปรแกรมก็สามารถดูตัวสะกดได้ แต่ผมเป็นคนไม่ค่อยดูเท่าไหร่ เพราะจะทำให้เสียอรรถรส พิมพ์มาถึงตรงนี้ ผมว่าคงเป็นที่ผมแล้วละ (ฮา)

จำได้ว่าเรื่องแรกที่เขียนลงบนเด็กดี คือเรื่อง ‘เกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก’ ซึ่ง ณ ตอนนั้นเขียนได้ห่วยมาก เพราะสำนวนก็ไม่ค่อยจะดี คำผิดก็เยอะ โครงเรื่องอะไรแทบไม่มีเลย แม้จะพอมีคนอ่านอยู่บ้าง แต่ผมเองรับตัวเองไม่ค่อยได้ ตอนนี้เลยกำลังตัดสินใจรีไรต์ (ยาวๆ)อยู่ครับ

ส่วนการเริ่มต้นเป็นนักเขียน ณ ตอนนั้นผมแทบไม่ได้มีความกดดันอะไรเลยครับ คือนึกอยากจะเขียนก็เขียนเลย จะมีคนอ่านไหมก็ไม่เป็นไร ขอแค่ได้แต่งไปเรื่อยๆ ก็พอ เพราะผมคิดว่า ถ้าแม้แต่ตอนเริ่มต้น เรายังมองว่ามันยาก หรือกดดันตัวเอง การเริ่มต้นมันก็จะยากขึ้น กระทั่งจนเราอาจจะไม่ได้เริ่มแต่งนิยายเรื่องแรกของเราสักทีเลยก็ได้

นิยายเรื่อง มนตราสะท้านโลกา
นิยายเรื่อง มนตราสะท้านโลกา

มนตราสะท้านโลกา นิยายที่มีไอเดียมาจากการอ่าน!

ที่มาของมนตราสะท้านโลกามีแรงบันดาลใจมาจากนิยายเรื่องเซวีน่าของพี่กัลครับ พออ่านเรื่องนั้นจบปุ๊บ ผมก็รู้สึกว่า เฮ้ย เราอยากสร้างโลกของตัวเราเองแบบพี่กัลบ้าง ก็เลยเริ่มต้นเขียนขึ้นมาเลยครับ

การเขียนเบื้องต้น ผมจะวางโครงเรื่องคร่าวๆ เอาไว้ครับ เช่นตัวละครหลักเป็นใคร การดำเนินเรื่องช่วงต้นเป็นยังไง ช่วงกลางเป็นยังไง ตอนจบเป็นยังไง จากนั้นค่อยมาเติมรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ลงทีหลัง ซึ่งผมว่าการวางโครงแบบนี้ มันทำให้เราปรับเปลี่ยนเนื้อเรื่องได้ง่าย โดยไม่ต้องยึดโครงเรื่องจนตรงเปรี๊ยะเกินไป ทำให้เรามีอิสระในการเพิ่มจินตนาการของเราลงไปได้ง่ายขึ้น

 เวลาเขียนกดดันไหม? ในข้อนี้ ต้องขอบอกว่า ถ้าเป็นตอนที่เปิดให้อ่านฟรีนี่ แทบจะไม่กดดันอะไรเลยครับ เพราะเรามองว่าเรามีหน้าที่เขียน หรือถ่ายทอดจินตนาการในหัวของเราออกมาให้ดีที่สุด ส่วนคนอ่านยังจะอ่านต่อไหม อันนั้นเป็นสิทธิ์ของเขาครับ

แต่พอมาช่วงหลังๆ ที่ลองเปิดขายไปเป็นบางตอน ก็จะเริ่มกดดันขึ้นมาบ้างครับ เพราะเราไม่มั่นใจว่า งานเราดีพอที่ควรจะเปิดขายไหม แล้วคนที่เขาซื้ออ่านเขาจะคุ้มไหม แต่ท้ายที่สุดแล้ว เราก็ต้องทำให้เต็มที่ที่สุดครับ

 แม้จะเครียดกับการเขียนบ้าง แต่มันก็ช่วยให้หายจากอาการซึมเศร้า!

ก็มีทุกข์บ้างครับ ทางออกคือ วางนิยายลงสักพัก แล้วไปทำอย่างอื่นก่อน เมื่อคิดว่าตัวเองดีขึ้น ค่อยกลับมาลุยต่อ

การเขียนนิยายมันทำให้ผมหายจากอาการของโรคซึมเศร้าครับ แล้วก็ทำให้เรามีความกล้ามากขึ้น ทำให้เราตอบตัวเองได้ว่า เฮ้ยเราก็ทำได้นะเว้ยอะไรแบบนั้นครับ

ส่วนตัวผมคิดว่า นักเขียนก็คือนักเล่าเรื่องครับ ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นอะไรก็ตาม 

สิ่งสำคัญของนักเขียนก็คือ เราจะต้องเล่าเรื่องนั้นๆ ที่เราคิดไว้ออกมาให้ดีที่สุด และให้คนอ่านได้ประโยชน์ที่สุด แม้ว่าประโยชน์หรือข้อคิดบางอย่างที่เราตีเนียนใส่เข้าไป มันจะน้อยแค่ไหนก็ตาม แต่อย่างน้อย เราต้องตอบตัวเองให้ได้ว่า เราได้มอบอะไรให้กับคนอ่านหรือเปล่า

สำหรับเป้าหมายของผม ง่ายๆ เลยคือ อยากจะแต่งนิยายให้กับเพื่อนๆ ในเด็กดีได้อ่านกันไปเรื่อยๆ นี่แหละครับ ส่วนอนาคตเราจะเดินไปได้ไกลแค่ไหน ตอนนี้ยังไม่ได้คิดไว้เลยครับ ไว้ให้เป็นเรื่องของอนาคตดีกว่า

เปิดขายเพราะความสงสัย แต่ดันมีคนซื้อ!?

ไม่ได้คิดจะขายนิยายตั้งแต่แรกเลยครับ หลักๆ ที่ลองเปิดขาย คือจากความสงสัยของเราเองล้วนๆ ว่า เออ ถ้าเกิดเราลองติดเหรียญสักเล็กๆ น้อยๆ จะมีคนกดซื้องานเราไหม สักหนึ่งคนก็ยังดี ตอนนั้นไม่คิดเลยครับ แต่พอผลปรากฏออกมาว่ามี ผมนี่ดีใจมากเลยครับ 55+

พอรู้ตัวว่ามีคนช่วยซื้อ กำลังใจนี่มาเต็มเลยครับ เพราะไม่ว่ามันจะมากหรือน้อย แต่ใจความสำคัญเลยก็คือ คนอ่านเขาต้องการส่งกำลังใจให้เรา มันเป็นพลังใจ ที่คนซึ่งไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยมอบให้เรา ผมมองว่าเป็นสิ่งที่วิเศษและสำคัญมากครับ รายได้ตรงส่วนนี้ หลักๆ เลยก็นำไปจ่ายค่าชากาแฟ เพื่อนำมาเพิ่มพลังในการเขียนนิยายต่อไปครับ 55+

จริงๆ เรามาเขียนนิยายแบบนี้ ในส่วนของครอบครัวเขาจะไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ครับ เพราะเขาอยากให้เราตั้งใจไปสอบครูมากกว่า แต่เขาก็ไม่ได้ห้าม ส่วนเพื่อนๆ รู้กันทุกคน แล้วก็คอยเป็นกำลังใจให้ตลอดครับ

 ท้อก็พัก แต่อย่าคิดยอมแพ้!

นิยายที่ผมเขียนเป็นเรื่องที่ได้จากการจินตนาการตอนนอนหรือระหว่างนั่งรถไปโรงเรียน ชีวิตในแต่ละวันของผมคือ ช่วงกลางวันฝึกสอน เวลาที่ว่างจริงๆ ก็คือตอนเย็น ดังนั้นก็จะใช้เวลาช่วงนั้นเขียนครับ หรือถ้าบางวันตันจนเขียนไม่ออก ผมก็จะนอนพักผ่อนไปเลย แล้วก็ใช้เวลาที่ได้อยู่กับตัวเองคิดเนื้อหาตอนต่อไป พอถึงวันต่อมา เราก็จะนำเนื้อหาที่เราเตรียมไว้ มาเรียบเรียงออกมาเป็นนิยายตอนต่อไปครับ

สำหรับคนที่กำลังท้อ ไม่ว่าจะท้อที่คนอ่านน้อย หรือท้อเพราะสาเหตุอื่นๆ ผมแนะนำว่าเราอย่าไป ยอมแพ้ครับ ผมเชื่อว่าตราบใดที่เราทำต่อไปไม่หยุด โอกาสมันย่อมจะเกิดขึ้นได้เสมอ แต่เมื่อใดก็ตาม ที่เราท้อแล้วหยุดทำ มันคือการปิดโอกาสที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ผมเป็นคนตาบอด ผมยังไม่ยอมแพ้เลย แล้วทุกคนที่มีร่างกายครบ จะยอมแพ้ได้ยังไงกันละครับ จริงไหม?

สุดท้ายนี้ ผมก็ขอขอบคุณนักอ่านเด็กดีที่คอยเป็นกำลังใจให้กันเสมอมา ไม่ว่าจะในแง่ของการช่วยอุดหนุน คอมเมนต์ รวมถึงยอดวิวทุกยอดวิว และหวังว่า เราจะอยู่เป็นเพื่อนกันไปนานๆ ครับผม ผมก็ขอฝากนิยายเรื่อง ‘มนตราสะท้านโลกา’ ซึ่งเป็นนิยายเรื่องล่าสุดไว้ด้วยนะครับผม เพราะเป็นเรื่องที่ตั้งใจเขียนมากๆ หากมีอะไรจำเป็นต้องปรับปรุง ก็คอมเมนต์บอกกันได้เสมอครับ ไม่ต้องเกรงใจครับ

ท้ายที่สุดนี้ ก็ขอขอบคุณนักเขียนทุกท่าน ที่ผลิตงานออกมา จนทำให้ผมได้แรงบันดาลใจในการเป็นนักเขียน ขอบคุณนักอ่านทุกท่าน ที่คอยเป็นหนึ่งในกำลังใจของผม ขอบคุณพี่ทีมงานในเด็กดี ที่มอบพื้นที่ตรงนี้ให้ ขอบคุณพี่โน้ต ที่หาวิธีออกแบบระบบ ที่ยังทำให้โปรแกรมอ่านหน้าจอของเราเข้าอ่านนิยายในเด็กดีได้ต่อไป ขอบคุณบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และขอบคุณตัวเองที่ใช้ชีวิตได้อย่างมีคุณค่า ขอบคุณครับ 

เอาจริงๆ พอได้ยินว่าผู้บกพร่องทางสายตามาเขียนนิยาย ต้องมีคนแอบคิดในใจว่า มองไม่เห็นแล้วจะเขียนได้ยังไงแน่ๆ เพราะการเขียนนิยายเรื่องหนึ่ง มันไม่ใช่แค่เขียนๆ ไปแล้วจบ แต่ยังมีเรื่องยิบย่อยต่างๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการจัดหน้าต่างๆ การตรวจคำผิด รวมไปถึงการเผยแพร่นิยายลงบนเว็บ แต่ถึงอย่างนั้น แม้จะมีอุปสรรคในการเขียนที่เข้ามามากมาย แต่ นิทราการก็ไม่เคยคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นอุปสรรคเลยค่ะ

แม้จะเริ่มเขียนนิยายจากการเป็นงานอดิเรกเล็กๆ แต่พอได้เขียนไปสักพัก  นิทราการ ก็ตกหลุมรักในงานเขียนเข้าเต็มเปา ทั้งมันยังช่วยเยียวยาเขาจากอาการซึมเศร้าได้อีกด้วย ซึ่งเราก็หวังว่าเรื่องราวที่นิทราการเอามาฝากในวันนี้ จะสร้างแรงบันดาลใจดีๆ และแรงผลักดันให้ชาวเด็กดีได้นะคะ

ติดตามผลงานของ นิทราการ ได้ที่นี่

เริ่มเขียนนิยาย

พี่หญิง

พี่หญิง
พี่หญิง - Columnist มนุษย์บ้านิยายที่สิงอยู่แถวๆ คลังนิยายเด็กดีเป็นประจำ

แสดงความคิดเห็น

ถูกเลือกโดยทีมงาน

ยอดถูกใจสูงสุด

0 ความคิดเห็น

แทรกรูปจากแกลเลอรี่ - Dek-D.com
L o a d i n g . . .
x
เรียงตาม:
ใหม่ล่าสุด
ใหม่ล่าสุด
เก่าที่สุด
ที่กำหนดไว้
*การลบรูปจาก Gallery จะส่งผลให้ภาพที่เคยถูกนำไปใช้ถูกลบไปด้วย

< Back
แทรกรูปโดย URL
กรุณาใส่ URL ที่ขึ้นต้นด้วย
http:// หรือ https://
กำลังโหลด...
ไม่สามารถโหลดรูปภาพนี้ได้
*เมื่อแทรกรูปเป็นการยืนยันว่ารูปที่ใช้เป็นของตัวเอง หรือได้รับอนุญาตจากเจ้าของ และลงเครดิตเจ้าของรูปแล้วเท่านั้น
< Back
สร้างโฟลเดอร์ใหม่
< Back
ครอปรูปภาพ
Picture
px
px
ครอปรูปภาพ
Picture